ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ศึกเขาค้อก่อนยุทธการผาเมืองเผด็จศึก ตอนที่๒

ศึกเขาค้อก่อนยุทธการผาเมืองเผด็จศึก ตอนที่ 2 

ภายในห้องยุทธการนั้น เสธ.ฝ่ายข่าวกรองของกองทัพภาค 2 ส่วนหน้า กล่าวบรรยายสรุปให้คณะผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบ ไม้ชี้ที่อยู่ในมือชี้ไปตามจุดต่างๆบนแผนที่อย่างคล่องแคล่วตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อน-หลั ตามวัน-เดือน-ปีที่เกิดเหตุการ การบรรยายสรุปเป็นไปการว่าปากเปล่าโดยที่คนบรรยายไม่ต้องหันมามองโผที่เตรียมรายละเอียดไว้แล้วเลยแม้แต่ครั้งเดียว แสดงถึงความชำนาญและความจำได้อย่างขึ้นใจ ทั้งนี้เนื่องจากผู้บรรยายสรุปได้มีการติดตามถานการณ์ด้านนี้มาโดยตลอดนั่นเอง 

ในความคิดของผู้ร่วมฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในขณะนั้นต่างสับสนและลังเลว่ามันเป็นไปได้แน่หรือ ต่างคนต่างไม่เชื่อว่า พคท.จะมีขีดความสามารถขยายกำลังและมีขีดความสามารถถึงขั้นนี้ จากการประมาณการข่าวสารที่ได้รับมาแต่ละระยะนั้นไม่สามารถปะติดปะต่อกันได้เลย ข่าวสารที่ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวก็ดี จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในพื้นที่ก็ดี ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่ามี ผกค.อยู่ในพื้นที่จริง โดยเฉพาะการที่จะให้เชื่อว่ากองกำลัง ผกค.มีปืนกลขนาด 12.7 มม.ใช้ ตัวปืนอาจจะหามาได้ แต่กระสุนในปริมาณที่พอเพียงละ เหล่า ผกค.มันจะเอามาจากใหน ในความคิดแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในขณะนี้ทำให้ทุกคนต่างอ้ำอึ้งไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆออกมา 

การถกแถลงและการโต้แย้งในเหตุผล ซึ่งต่างคนต่างถือความคิดของตนเองว่าถูกต้องเป็นใหญ่ ว่ากันเกือบตลอดทั้งวัน โดยประเด็นเดียวที่ว่าไม่มีใครเชื่อว่ามี ผกค.จำนวนมากจริงในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด และดูเหมือน เสธ.ฝ่ายข่าวกับเสธ.ฝ่ายยุทธการของกองทัพภาค 2 เพียง 2 คนเท่านั้นที่เชื่อว่ามี ผกค.จริง ทั้ง 2 จึงพยายามหาหลักฐานประกอบเหตุผลในคำอธิบาย ทั้งนี้โดยมีความมุ่งหมายที่จะให้หน่วยงาน 2 หน่วยงาน คือ กองทัพภาคที่ 2 กับกองทัพภาคที่ 3 สนธิกำลังประสานการปฏิบัติร่วมกัน แต่ในสถานการณ์ภายในห้องยุทธการที่เป็นห้องประชุมในตอนนี้ดูบรรยากาศไม่สดใสเท่าที่ควร 
ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ว่า ในสมัยนั้นไม่ค่อยมีใครเชื่อเกี่ยวกับ ผกค.สักเท่าใดนัก หากคนนั้นไม่ได้พบเห็นด้วยตาตัวเองหรือสัมผัสด้วยมือตัวเอง ใครก็ตามที่รายงานว่าพบหรือว่ามีกองกำลังของ ผกค. เป็นจำนวน 50 คน 100 คน หรือ 200 คนขึ้นไป จะไม่ได้รับการเชื่อถือโดยเด็ดขาด แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสร้างสถานการณ์เพื่อหลอกเอางบประมาณทันที โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ทำงานในห้องแอร์ วางแผนการรบในแผนที่ด้วยแล้วยิ่งไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด ปัจจุบันความคิดเหล่าได้หายไปหมดแล้วจากความคิดของผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ในสมัยปัจจุบันก็คือผู้น้อยในสมัยนั้น ผู้ใหญ่ในปัจจุบันจึงเชื่อในรายงานต่างๆ เพราะตนเองเคยประสบมาก่อนเมื่อครั้งเป็นผู้น้อยนั่นเอง ดังนั้นการปฏิบัติการปราบปราม ผกค. ในทุกวันนี้จึงมักได้รับการเอาใจใส่ การสนใจวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดทุกครั้งไป การให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจได้รับการตอบแทนอย่างพอสมควรแก่อัตภาพ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ตายก็ตายไป ที่พิการก็พิการไป หากใครยังอยู่จะปราบปรามต่อหรือจะกลับไปทำงานที่หน่วยปกติก็ตามใจ 

ด้วยเหตุนี้เองที่ทาง เสธ.ฝ่ายข่าวของกองทัพภาค 2 ส่วนหน้าพยายามที่จะยกเหตุผลต่างๆ มาประกอบคำอธิบายบรรยายสรุป โดยเฉพาะชุดปฏิบัติการลาดตระเวนหาข่าวจำนวน 4 ชุดที่เพิ่งส่งออกไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวสารที่หน่วยลาดตระเวนรายงานมาทุกๆระยะนี้พอจะเชื่อหรือไม่ว่าภูยอดหญ้าคือขุมกำลังใหญ่หรือเป็นกองบัญชาการใหญ่ในเขตภาคเหนือของ พคท. 

วันนั้นค่ำแล้วของเดือนพฤศจิกายน ฤดูหนาวเริ่มมาเยือนดินแดนภาคอีสานที่หน้าแล้งจะร้อนกว่าภาคอื่นๆ และแน่นอนในหน้าหนาวกลับหนาวกว่าภาคอื่นๆอีกด้วย ชุดปฏิบัติการพิเศษภารกิจลาดตระเวนหาข่าวบริเวณภูยอดหญ้าโดยเฉพาะมีกำหนดเวลาปฏิบัติภารกิจ 1 เดือน ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษจำนวน 4 ชุดนี้เป็นชุดเสริมให้กับชุดที่ส่งออกไปเมื่อเดือนก่อน โดยมีความมุ่งหมายว่าการตรวจสอบพื้นที่สงสัยด้านหัวและท้ายจะทำให้ทราบลักษณะการเคลื่อนไหวของ ผกค.ในพื้นที่ 

ชุดปฏิบัติการพิเศษจำนวน 48 คน จัดกำลังเป็น 4 ชุด ชุดละ 12 คน โดย 2 ชุดแรกจัดจากฝ่ายทหารมีรหัส “เสือดำ” และ “เสือเหลือง” 
ส่วนอีก 2 ชุด จัดจาก ตชด. มีรหัสว่า “เสือขาว” และ “เสือใหญ่” 

การบังคับบัญชาทั้งหมดเป็นของเสือดำ กำลังทั้งหมดกำลังฟังคำสั่งคำชี้แจงจากเสธ.ฝ่ายข่าวเพื่อให้ทราบถึงความต้องการของภารกิจและอื่นๆ เท่าที่ผู้สั่งการจะต้องชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติทราบ รวมทั้งการซักถามกันจนเป็นที่เข้าใจอย่างแจ่มชัด หลังจากนั้นจึงเป็นการเตรียมการในหน้าที่ของแต่ละคน ทั้งของส่วนตัวและส่วนที่ต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจ 

ไม่มีการกระโตกกระตากโวยวาย หรือตื่นเต้นดีใจเสียใจแต่อย่างใด จากบรรดานักรบทั้ง 48 คนนั้น สิ่งบรรจุในเป้หลังมีเครื่องแบบอะไหล่เพียงชุดเดียว ถุงเท้า 2 คู่ เสื้อยืดชั้นใน 1 ตัว กางเกงใน 2 ตัว ยาสีฟัน แปรง สบู่ไม่จำเป็น แผนที่เข็มทิศของหัวหน้าชุด มอร์ฟีนระงับปวดอยู่ที่หมอ วิทยุติดต่อพร้อมแผ่นผ้าสัญญาณ พลุส่องแสง ระเบิดควัน ระเบิดสังหาร เคลย์โมไมน์ ทีเอ็นที. เชื้อประทุไฟฟ้า สายไฟ เชือกสะดุดกับระเบิด เชือกเดินป่า กล่องยังชีพโบวี่มีดสังหาร และที่สำคัญที่สุดคือ อาวุธประจำกายพร้อมกระสุนเต็มอัตรา ฝ่ายทหารใช้เอ็ม.16 ฝ่าย ตชด.ใช้เอชเค 33 ซึ่งปืนทั้งสองชนิดนี้สามารถใช้กระสุนร่วมกันได้โดยไม่ต้องดัดแปลงอะไรอีก ในภารกิจแบบนี้พวกนักรบโดยสายเลือดนั้นเขารู้ดีว่าหมวกเหล็กไม่มีความจำเป็นเท่าๆกับมุ้งและผ้าห่ม หรือแม้แต่หม้อข้าวสนามก็ไม่มีความจำเป็น 

การเตรียมการกระทำกันอย่างปกติด้วยความเคยชิน หลังจากได้รับการตรวจสอบซ้ำจากผู้เป็นหัวหน้าแล้ว ทุกคนจึงพักผ่อนเพื่อรอเวลาในการเคลื่อนย้ายตอนเช้าวันรุ่งขึ้น 
ฮ.ทหารบก 4 ลำ มาจากไหนไม่มีใครรู้ได้ มาปรากฏตัวที่ลานสนามหน้า บก.กองทัพเพื่อมารับชุดปฏิบัติการพิเศษทั้ง 4 ชุดนั้น พรรคพวกที่ไม่ได้ออกภารกิจที่ตื่นนอนก่อน 7 โมงเช้า ถือโอกาสออกมาส่งพรรคพวกขึ้น ฮ. คำว่า “ขอให้เพื่อนโชคดี” ดูจะมีค่าที่สุดในยามนั้น คำพูดที่ออกมาจากใจของเพื่อนนักรบด้วยกัน นักรบเท่านั้นที่รู้ว่ามันมีค่ายิ่งกว่าทอง สายตาของคนที่จะจากกับคนที่มาส่งมองประสานกันมันเป็นภาษาใจที่พูดว่า ขอให้ทุกคนกลับมาและกลับมาด้วยร่างกายที่คงสภาพเดิมทั้งนี้และทั้งนั้นทุกคนตระหนักดีว่าชีวิตนักรบทุกชีวิตย่อมขึ้นอยู่กับปลายนิ้วที่แตะอยู่ที่ไกปืน ความไวและดวงชะตาดูจะสำคัญกว่ายุทธวิธี 

ฮ.ทั้ง 4 ลำดึงตัวเอียงวูบล่องลอยขึ้นไปในอากาศเหมือนจะไม่สนใจใยดีกับความอาลัยและเป็นห่วงของคนที่อยู่ภาคพื้นดิน 

ชั่วระยะเวลาไม่ถึงนาที ภาพของ ฮ.ทั้ง 4 หายไปจากสายตาของพรรคพวกที่มาส่งเท่าๆกับพวกที่อยู่บน ฮ.ที่มองเห็นร่างของคนที่มาส่งเล็กลงๆ จนกระทั่งหายไปในสายตา มีแต่ทิวไม้และทิวเขาสลับพื้นที่ทุ่งนาเป็นตาสี่เหลี่ยมอยู่เบื้องล่าง เสียงโรเตอร์เครื่องยนต์ที่ดังกึกก้องในท้องบรรยากาศ ตัวเครื่องที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในบางครั้งที่เอียงวูบเหมือนจะดำดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง 

ดูเหมือนว่าคนทั้ง 48 คนใน ฮ. 4 ลำนั้นจะไม่มีใครที่จะมีกะจิตกะใจคุยกันเลย ใช่ว่าจะกลัวตายก็หาไม่ แต่อารมณ์ที่ปล่อยทอดไปในอากาศล่องลอยไปจนสุดขอบฟ้ามองเห็นภาพของพรรคพวกที่ละลายทั้งชุดมันลอยอยู่เบื้องหน้านี้เอง ใครบ้างในโลกนี้ที่ไม่กลัวตาย แล้วนักรบเหล่านี้ไม่ใช่คนหรือจึงไม่มีสิทธิ์กลัวตาย 

ด้วยเวลาอีกไม่นานนักต่อมา สัญญาณจากนักบินแจ้งเตือนว่าเตรียมลงสู่พื้นได้แล้ว หลายคนจ้องไปยังเบื้องล่าง สิ่งที่เห็นมีเพียงอย่างเดียวคือ ยอดไม้บนยอดเขาเท่านั้นเอง 

ฮ.ลำนำหน้าเอียงตัวลดระดับสูงลงอย่างรวดเร็วจนแทบจะปักหัวลงดินเหมือนของหล่นลงพื้น อีก 3 ลำแยกตัวออกไปตามพิกัดที่กำหนด ซึ่งก็เชื่อว่า คงไม่มี ฮ.ลำใดที่จะมีสนาม ฮ.ให้ลงโดยเฉพาะ 

ไม่ต้องรอให้ฐานสกีสัมผัสพื้น ความสูงจากพื้นคงไม่น้อยกว่า 3 เมตร ทันทีที่เครื่องลอยตัวนิ่ง ตัวเสือดำนำหน้ากระโดดลงก่อนทันทีบนพื้นหญ้าแห้งที่ถูกแรงลมจากใบพัด พัดจนลู่แบนราบกับพื้น ถึงจะสงสัยก็ไม่ต้องถามว่าพื้นหญ้านั้นสูงจากพื้นเท่าใด เพราะเห็นอยู่แล้วว่าขนาดร่างกายของเสือดำที่ค่อนข้างสูงใหญ่กว่าความสูงของพื้นหญ้ายังถึงระดับเอว 

ด้วยเวลาไม่กี่วินาทีกำลังพลทั้ง 12 ได้รับการสั่งลงอย่างเรียบร้อย โดยไม่มีเจ้าของพื้นที่มาให้การต้อนรับแม้แต่คนเดียว การชาร์จตัวออกจากจุดส่งลงเข้าสู่ที่กำบังต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกแล้วสงบนิ่ง สดับตรับฟังสิ่งที่จะแปลกปลอมเข้ามา 

เสียง ฮ.ทั้ง 4 ลำดังไกลออกไปในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางที่เข้ามา จนกระทั่งเสียงนั้นลับหายไปจากการได้ยิน 

เสือดำเรียกวิทยุทันที 

“จากเสือดำ ขอให้ทุกชุดรายงานสถานการณ์ได้” 

เสือดำพูดวิทยุด้วยตัวเอง 2 เที่ยวเพื่อความแน่ใจ 

“จากเสือเหลือง เรียบร้อย” 

“จากเสือขาว เรียบร้อย” 

“จากเสือใหญ่ เรียบร้อย” 

ทั้งสามเสือรายงานเข้ามาตามลำดับ ตามแผนที่วางเอาไว้ในตอนนี้ หากการสั่งลงไม่ผิดพิกัดจนเกินไป แต่ละชุดจะอยู่ห่างกันในระยะไม่เกิน 2 กม.เท่านั้น เสือดำสั่งการต่อทันที 

“จากเสือดำ ให้ทุกคนถือเข็มทิศแนว 110 รุกหน้า จนกว่าจะจับแนวภูยอดหญ้าได้ แล้วให้ตรวจสอบพิกัดที่อยู่ โอเคไหม” 

“จากเสือเหลือง ทราบ ให้ถือแนว 110” 

“จากเสือขาว ทราบ ให้ถือแนว 110” 

“จากเสือใหญ่ ทราบ ให้ถือแนว 110” 

“โอเค เริ่มได้” 

ทั้งสามเสือทวนคำสั่งให้ปฏิบัติ เสือดำสั่งการให้เริ่มเดินทางทันที 

ยอดของภูยอดหญ้าที่สูงกว่า 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเลซึ่งเป็นยอดสูงสุดของพื้นที่ ส่วนยอดของภูค้อมีความสูงลดลงมาเป็นอันดับรอง การถือมุม 110 เดินตัดขึ้นยอดเนินใดเนินหนึ่งด้านหน้า จะช่วยให้ตรวจสอบพิกัดที่อยู่ของตัวเองได้ และนั่นหมายความว่าภารกิจที่แท้จริงจะเริ่มต่อเมื่อตรวจสอบพิกัดได้แล้ว 

การเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าอากาศแจ่มใส เส้นทางรกทึบไปด้วยป่าหญ้าจนต้องค่อยๆแหวกเป็นช่องทางจึงเดินไปได้ ลมป่าบนยอดเขาโชยมาเป็นระยะๆ ค่อยบ้างแรงบ้าง ต้นยางต้นประดู่ขนาดใหญ่ 2 คนโอบมีอยู่ทั่วบริเวณ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของพวกทำลายป่ายังเข้ามาไม่ถึง การเดินทางบนสันเขาที่ต้องแหวกป่าหญ้าเดินเป็นไปจนกระทั่งเที่ยงวันก็ยังไม่สามารถจะหาจุดที่สูงสุดของภูยอดหญ้าตอนนั้นได้ กับระเบิดและจุดซุ่มโจมตีในบริเวณนี้ไม่น่าจะมี แต่ถ้ามันเอาไฟเผาหญ้าไล่มีหวังสุกตาย ดังนั้นเสือดำจึงต้องพยายามที่จะออกจากดงหญ้าแห้งในบริเวณนี้ให้ได้ 

“เสือใหญ่ จาก เสือดำ เปลี่ยน” 

เสือดำเรียกวิทยุถึงเสือใหญ่ ชุดปฏิบัติการของ ตชด. ที่อยู่ทางปีกซ้ายสุด 

“จากเสือใหญ่ เปลี่ยน” 

เสือใหญ่ตอบทันที 

“ทางด้านนั้นเป็นไงบ้าง” 

“เหตุการณ์ปกติดี สภาพเส้นทางมีแต่ป่ากล้วยป่า รกทึบไปหมดเลย ตอนนี้เหลือระยะทางอีกซักประมาณ 800 เมตรจะถึงยอดภู... แล้วทางด้านเสือดำล่ะ” 
เป็นธรรมดาอยู่ดีที่ออกทำงานร่วมกันก็อดที่จะห่วงกันไม่ได้ 

“ทางนี้แย่ว่ะ ป่าแห้งรกชิบหายเลย ถ้ามันเอาไฟเผาไล่มีหวังสุกตายว่ะ ไอ้ยอดภูซักยอดยังมองไม่เห็นเลยตอนนี้ ...แล้วไอ้เสือเหลืองกับเสือขาวล่ะวะ มองเห็นมันไหม” 

“มองเห็นได้ไง เสือเหลืองอยู่ในก้นหุบข้างล่างโน่นแน่ะ สงสัยล่อกล้วยป่าเพลินไปแล้ว” 

“เสือดำจากเสือขาว เปลี่ยน” 

ในขณะที่เสือดำพูดคุยกับเสือใหญ่ถึงเสือขาว ก็พอดีทางเสือขาวกำลังฟังวิทยุอยู่พอดีก็เลยเรียกสวนกลับมา 

“จากเสือดำ ส่งข่าวได้” 

“จากเสือขาว เส้นทางด้านนี้รกจังเลยพี่ ป่ากล้วยทั้งนั้น ทางผมพยายามรักษาแนวทางเอาไว้ แต่ดูเหมือนมันจะลงก้นหุบตลอดเวลาเลย ไอ้ยอดภูที่ว่าสงสัยว่าพรุ่งนี้จะถึงหรือเปล่า ผมว่าผมกำลังจะหาทางตัดชิดขวาให้ใกล้ไปทางเสือใหญ่น่ะพี่” 

“โอเค ถ้างั้นหาทางตัดไปเลย เฮ้ยเสือขาวข้างล่างมีไม่ไผ่มีน้ำไหมวะ” 

เสือดำหมายถึงไม้ไผ่ที่จะใช้หุงข้าว ส่วนน้ำนั้นไม่ต้องพูดถึง ขอให้มีน้ำกิน หุงข้าวได้จะรบอีกซักกี่วันกี่เดือนก็ได้ 

“ไม่มีเลยพี่” 

คำตอบจากเสือขาว คิดว่าทั้ง 3 เสือที่ฟังอยู่ร่วมกันคงได้ยิน แม้จะไม่มีคำตอบทุกคนก็ทราบดีว่า เรื่องน้ำกินนั้นพอจะเอาออกมาจากต้นกล้วยป่าได้ หรือจะเอามาหุงข้าวก็พอไหว แต่ไอ้กระบอกไม้ไผ่ที่จะใช้เป็นภาชนะหุงข้าวล่ะจะไปเอาที่ไหน 

ไม่มีเสียงตอบวิทยุจากทางด้านเสือดำ ซึ่งไม่ใช่หมดปัญหา แต่ตรงข้ามปัญหาต่างๆกำลังประดังเข้ามา ระยะทางโดยประมาณจากจุดที่อยู่ในปัจจุบันถึงภูยอดหญ้าอีกประมาณ 30-40 กม. เวลาปฏิบัติการ 1 เดือน ใครจะพยากรณ์ได้บ้างว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าวสารไม่ต้องหุงด้วยน้ำ แต่ต้องเอามาคั่วแห้งกินน้ำจากต้นกล้วยพอกินไหว ไม่งั้นแล้วอาจจะต้องกินน้ำเก่าในตัวเอง 

ยอดเขาที่สูงชัน หุบเหวที่ลึกลงไป การทิ้งอาหารจากทางอากาศจะทำได้ซักเท่าไหร่ อุปสรรคเหล่านี้พวกเสือทั้ง 4 เคยเจอมาแล้ว แต่ให้ตายสิ ไม่จำเป็นไม่อยากพบกับมันเลย... 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น