ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรามารู้เรื่องของผกค.กันบ้าง

คัดลอกจากhttp://2519me.com/NTOctober/NTOcontent/Longklarpooparnf/Longklapnnf.htmมาให้อ่านกันสักหน่อยเป็นอันว่ารู้เขาบ้าง รู้เราบ้างปัจจุบันเป็นประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนไทยด้วยกันเองไปแล้ว

/////////////////////////////////////////////////////////////
กองทหารของประชาชน

     กองทหารของประชาชนเกิดขึ้นตามความจำเป็นของภารกิจทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากอำนาจรัฐบีบคั้นให้ประชาชนต้องใช้ความรุนแรงเข้าต่อกร เพราะรัฐบาลเผด็จการได้ใช้กลไกอำนาจที่มีทั้งอาวุธและคุกตะรางเข้าปราบปรามประชาชนที่มีเพียงมือเปล่า ถ้าต้องการเอาชนะเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองก็ต้องมีกองทหารของตัวเองด้วยเช่นกัน
     ทหารประชาชนจึงเป็นลูกหลานคนยากจนเป็นส่วนใหญ่ โดยการอาสาสมัครเข้ามา มิได้เกิดจากการกะเกณฑ์หรือบีบบังคับ
     เป็นกองทหารที่เน้นการติดอาวุธทางความคิด
     เป็นกองทหารที่สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาและอุดมการณ์
     ภาระหน้าที่หลัก ๓ ประการ ในกองทหาร
     ๑. หน้าที่ในการสู้รบ
     ๒. หน้าที่ปลุกระดมมวลชน
     ๓. หน้าที่ทำการผลิต
     ระบบการจัดตั้งในกองทหารประกอบด้วย หน่วยพรรคผู้ชี้นำการเมืองผู้บัญชาการรบ
     สำหรับทหารประชาชนนั้นนอกจากสู้รบแล้ว ยังต้องศึกษาทฤษฎีทางการเมืองเป็นประจำ มีการรวมกลุ่มวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองและความเป็นไปของเหตุการณ์ทั่วโลกเป็นระยะ เพื่อว่าเวลาได้พบประชาชนจะได้ให้การศึกษาแก่มวลชนได้ทุกโอกาสที่มีเข้ามา ตอบปัญหาและไขข้อข้องใจได้อย่างกระจ่างชัด
     จะต้องลงสู่นาไร่เพื่อใช้แรงงาน เพราะทหารป่าไม่ใช่เจ้านาย แต่เป็นผู้รับใช้ประชาชนในยามศึกสงครามคนจนก็ยิ่งมีความยากลำบากมากกว่าเดิม กองทหารก็ไม่ควรเพิ่มภาระให้กับมวลชน จึงต้องทำการผลิตเพื่อเลี้ยงตัวเอง ถ้ามีโอกาสก็ต้องช่วยเหลือประชาชนในด้านการใช้แรงงาน จะรบกวนประชาชนในยามจำเป็นเท่านั้น
     กองทหารนี้แจ่มชัดในการยึดกุมแนวทางนโยบายของพรรคฯ ปฏิบัติตามวินัย ทปท. อย่างเคร่งครัด
     เนื่องจากทหารต่างก็เป็นลูกหลานของประชาชน ร่วมกันต่อสู้เพื่อกอบกู้ชีวิตให้พ้นจากการถูกกดขี่ข่มเหง จึงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแท้จริง
 นับตั้งแต่ฐานที่มั่นเขต ๓ จังหวัดกำเนิดขึ้น รัฐบาลเผด็จการก็ได้ใช้กำลังทหารจำนวนมากทำการล้อมปราบอย่างหนักหน่วง หวังจะทำลายฐานที่มั่น ๓ จังหวัดให้ราบคาบ ตั้งแต่แรกเกิด เริ่มตั้งแต่ปลายปี ๒๕๑๑-๒๕๑๒ พวกเขาได้เปิดยุทธการภูขี้เถ้าขึ้น และเปิดยุทธการต่าง ๆ ติดตามมาอีกมากมาย เช่น ยุทธการเข็กน้อย,ยุทธการภูหินร่องกล้า,ยุทธการป่าหวายยุทธการเขาขาดยุทธการเขาค้อยุทธการทับเบิก เป็นต้น แต้ก็ถูกทหารป่าและประชาชนในฐานที่มั่นต่อต้านอย่างเหนียวแน่นตลอดมา
     ปี ๒๕๑๓ รัฐบาลได้เปิดยุทธการบ้านสะเดาะพงษ์ทางฝั่งใต้ขึ้น ทหาร ประชาชนทางฝั่งใต้ได้ร่วมกันต่อต้าน โดยยิงเฮลิคอปเตอร์ตกและยึดเอาไว้ ทั้งได้ยิงถูกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์เสียหายอีกหลายเครื่อง การสู้รบติดพันกันอยู่ ๑๐ กว่าวัน เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถส่งเสบียงอาหารได้ทหารรัฐบาลต้องถอนกำลังกลับไป
ปี ๒๕๑๕ รัฐบาลได้เปิดยุทธการภูขวางอันลือลั่นขึ้น โดยมอบให้พันเอกณรงค์ กิตติขจร เป็นผู้อำนวยการล้อมปราบ ทั้งนี้ก็เพื่อจะสร้างเครดิตให้พันเอกณรงค์ในการที่จะสืบอำนาจเผด็จการต่อจากพวกเขา และเป็นการหักหน้าบรรดานายพลที่เป็นแม่ทัพของกองทัพภาคที่ ๓ ที่ทำการปราบฐานที่มั่น ๓ จังหวัดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงระดมกำลังทหารบกจากกองทัพภาคต่าง ๆ กำลังจากกองทัพอากาศศูนย์สงครามพิเศษลพบุรีหน่วยรบพิเศษราทิกุลที่เคยเข้าไปรับจ้างรบในประเทศลาว  รวมกำลังทั้งหมดจำนวน ๑๕,๕๑๐ คน พร้อมด้วยอาวุธที่ทันสมัยนานาชนิดหวังจะบดขยี้ฐานที่มั่นเขต ๓ จังหวัดให้ราบคาบ แต่ถูกทหารประชาชนร่วมกับประชาชนต่อต้านอย่างดุเดือดเป็นเวลาต่อเนื่องถึง ๔ เดือน ทหารรัฐบาลต้องล่าถอยกลับไป

     ปลายปี ๒๕๑๕ ต้นปี ๒๕๑๖ รัฐบาลถนอม-ประภาส ได้เปิดยุทธการสามชัยขึ้นมาหม่ โดยระดมกำลังทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ รวมกำลังทั้งสิ้น ๗,๗๖๘ คน ใช้อาวุธทันสมัยทุกชนิด เช่นเดียวกับยุทธการภูขวาง โดยใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มและเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบปูพรมเป็นการเบิกทาง จากนั้นก็ใช้กำลังบุกทางภาคพื้นดิน ทหารประชาชนร่วมกับประชาชนยืนหยัดต่อต้านอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา ๒ เดือน ทหารรัฐบาลจึงล่าถอยไป

     
ปี ๒๕๑๖ ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าการบุกฐานที่มั่นฝั่งเหนือหลายครั้งไม่สามารถบรรลุผลตามปรารถนา พวกเขาจึงหาทางเจาะจุดอ่อนก่อน โดยพวกเขาคิดว่าทางฝั่งใต้ (เขต ๑๕) เป็นจุดอ่อน เพราะมีพื้นที่ยื่นลึกเข้าไปอยู่ใจกลางของพวกเขา ทั้งยังมีถนนสายหล่มสัก-พิษณุโลกผ่ากลาง แยกออกไปจากฝั่งเหนือ การลำเลียงขนส่งและการช่วยเหลือกันก็ลำบาก พวกเขาจึงเปิดยุทธการ "รามสูร" ทหารรัฐบาลได้ส่งกำลังเข้ายึดเขาย่า ทหารประชาชนเข้าปิดล้อมคอยซุ่มยิงเฮลิคอปเตอร์ที่จะมาส่งกำลังบำรุง เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกและเสียหายหลายลำ จนเฮลิคอปเตอร์ไม่กล้าลง ต้องใช้เครื่องบินมาทิ้งร่มส่งเสบียงทางอากาศแต่เครื่องบินต้องบินในระดับสูงบินต่ำลงไม่ได้เพราะถูกยิง ร่มเสบียงจึงลอยไปตกในป่า ทหารรัฐบาลที่ยึดเขาย่าต้องอดข้าวอดน้ำจนผู้บัญชาการรบต้องออกคำสั่งให้ถอย
     
ปี ๒๕๑๙ รัฐบาลได้เปิดยุทธการ "ดอนเจดีย์" และยุทธการ "ร่วมใจศึก" เพื่อเข้ายึดเขต ๑๕ ให้ได้ ในครั้งนี้มีทหารก๊กมินตั๋งกองพล ๙๓ รวมอยู่ด้วย แต่ก็ถูกทหารประชาชนต่อต้านอย่างหนักจำต้องล่าถอยกลับไปเช่นเดิม
     
ปี๒๕๒๒ รัฐบาลได้เปิดยุทธการ "ลุ่มน้ำเข็ก" เพื่อบุกยึดฐานที่มั่นเขต ๑๕ อีก ทหารประชาชนต่อต้านสามารถรักษาฐานที่มั่นเขต ๑๕ ไว้อย่างมีชัย
     
ปี ๒๕๒๓ รัฐบาลได้เปิดยุทธการ "เขาค้อ" เพื่อหวังจะบุกยึดยอดเขาค้อให้ได้ ทหารประชาชนต่อสู้รักษายอดเขาค้าไว้ได้
     
ปี ๒๕๒๔ รับบาลได้เปิดยุทธการ "ผาเมืองเผด็จศึก" โดยการระดมกำลังทหารจากส่วนต่าง ๆ จำนวนหลายพันคน สมทบด้วยทหารก๊กมินตั๋งกองพล ๙๓ ใช้อาวุธที่ทันสมัยทุกชนิดบุกเข้าฐานที่มั่นเขต ๑๕ ทุกทิศทุกทาง ทำให้ฝ่ายป่าตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก เพราะกำลังทหารประชาชนมีกำลังน้อย ด้านหนึ่งต้องต่อต้านการบุกรุกของทหารรัฐบาล อีกด้านหนึ่งต้องคอยปกป้องประชาชน กรรมการเขตจึงมีมติให้อพยพประชาชนให้ไปอยู่ในเขตที่ปลอดภัยกว่า  เปลี่ยนฐานที่มั่นเขต ๑๕ เป็นเขตจรยุทธ์ คงอยู่เฉพาะทหารที่เป็นหน่วยสู้รบ  ในการต้านการล้อมปราบนั้น ทหารประชาชนและประชาชนในฐานที่มั่นได้ใช้สงครามประชาชนไปรับมือกับฝ่ายปกครอง ใช้ยุทธวิธีจรยุทธ์ไปต่อสู้กับการรบแบบแผนใช้อาวุธพื้นบ้านไปสู้กับอาวุธที่ทันสมัยและมีอาณุภาพสูงขึ้น ใช้จำลังจำนวนน้อยไปสู้กับกำลังที่มีมากมายมหาศาล ใช้วิธีการต่อสู้หลายรูปแบบไปยับยั้งการบุกรุกด้วยกำลังขนาดใหญ่ ใช้ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลิกแพลงไปหยุดความฮึกเหิมของผู้บุกรุก เช่น ในการล้อมปราบแต่ละครั้ง พวกเขาใช้ปืนใหญ่นานาชนิดยิงถล่มใส่เป้าหมายเป็นการเบิกทาง เมื่อคิดว่าจะไม่มีทหารประชาชนอยู่ต่อไปได้แล้วก็ใช้กำลังจำนวนมากบุกทางภาคพื้นดินหนุนเนื่องกันเข้ามา ฝ่ายทหารประชาชนกำลังน้อยต้องถอย คอยติดตามดูการเคลื่อนไหวของพวกเขาปล่อยให้พวกเขาถลำลึกเข้าไปในฐานที่มั่น ซึ่งทหารป่าและประชาชนได้อาศัยหลุมขวากจั่นห้าวและทุ่นระเบิด เพื่อสกัดการบุกประสานกับซุ่มยิงรบกวน เมื่อพวกเขาตกหลุมขวากจั่นห้าวหรือถูกยิงบาดเจ็บก็ต้องเรียกให้เฮลิคอปเตอร์มารับคนเจ็บ และส่งกำลังบำรุง ทหารประชาชนก็จัดกำลังหน่วยเล็ก ๆ คอยดักยิงเฮลิคอปเตอร์จนตกหรือเสียหายจนไม่กล้าลงจอดส่งกำลังบำรุง จึงเป็นการยากที่ทหารรัฐบาลจำนวนมากจะยืนหยัดอยู่ในฐานที่มั่นได้นาน
     การใช้ยุทธวิธีล่อหลอกทำให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าใจผิดก็เป็นอีกหนึ่งยุทธวิธีของฝ่ายป่า ฝ่ายรัฐบาลต้องหาที่ตั้งของกองทหารประชาชนเพื่อทิ้งระเบิดทำลาย หรือไม่ก็ใช้ปืนใหญ่ยิง เช่น ที่ป่าสนหินร่องกล้ามีร่องหินแตกมากมายสามารถใช้เป็นที่หลบกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิดได้ ทหารประชาชนก็จัดกำลัง ๒-๓ คน ไปคอยยิงเครื่องบินตรวจการ และสุมไฟในถ้ำทิ้งไว้คล้ายมีคนอยู่มากมาย ฝ่ายรัฐบาลเข้าใจผิดก็เลยยิงปืนใหญ่ถล่มนับพันลูกและใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดนานาชนิดแบบปูพรม ทำให้ต้นสนบริเวณนั้นล้มระนะระนาด ป่าสนทั้งป่าเหลือต้นสนยืนอยู่เพียงไม่กี่ต้น ส่วนทหารประชาชนไปอยู่ยอดภูอีกลูกหนึ่งดูทหารรัฐบาลสู้รบกับสิ่งที่ว่างเปล่า
     การใช้ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวไปสู้กับอาวุธที่มีอาณุภาพเหนือกว่า เช่นปี ๒๕๑๓ ทหารบ้านเขาย่าไปรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนทำไร่เครื่องบินไอพ่นของรัฐบาลเห็นประชาชนอยู่ในไร่ก็ปักหัวลงมาเพื่อยิงจรวดใส่ประชาชน ทหารบ้านก็รีบประทับปืนแก๊ปกับตอไม้ยิงโดดสวนขึ้นไปปะทะกับไอพ่นที่โฉบลงต่ำที่สุดจนเกิดไฟแลบ ไอพ่นถลาไปตกกลางป่า
 การใช้ไหวพริบก็สามารถขับไล่ผู้บุกรุกได้ เช่น ในยุทธการภูขวางปี ๒๕๑๕ มีทหารฝ่ายรัฐบาลหนึ่งกองพันบุกขึ้นมา เพื่อสมทบกับกองกำลังส่วนอื่นเข้ายึดภูร่องกล้า เวลาใกล้ค่ำทหารท้องถิ่นและทหารบ้านร่องกล้าไปลาดตระเวน พบทหารรัฐบาลกำลังตั้งค่ายพักพลอยู่ริมห้วยน้อย ทหารท้องถิ่นและทหารบ้านปรึกษากันว่าเหนือห้วยสายนี้ขึ้นไปมีต้นตาวขึ้นอยู่จำนวนมากและกำลังมีลูกดำเต็มต้น ถ้าตัดลูกตาวใส่ลงไปในห้วย คนที่อยู่ข้างล่างอาบหรือกินเข้าไปจะคันทั้งตัวจนอยู่ไม่ได้ ดังนั้นทหารท้องถิ่นและทหารบ้านจึงขึ้นไปเหนือน้ำตัดเอาลูกตาวจำนวนมากทิ้งลงไปในห้วย ปรากฎว่าทหารรัฐบาลกองพันนั้นใช้น้ำในห้วยอาบกิน ทำให้เกิดอาการคันกันทั้งกองพัน โดยที่ไม่ได้คาดว่าจะเจอพิษประเภทนี้ จึงไม่มียาอะไรรักษา เลยต้องรีบถอนกำลังกลับไป และในยุทธการภูขวางปีเดียวกันทหารรัฐบาลจำนวน ๑ กองพัน ได้บุกเข้ายึดและตั้งค่ายอยู่บนยอดภูหญ้าคาบ้านป่าหวาย เพราะพวกเขาเห็นว่าเป็นภูมิประเทศที่ดีเป็นภูหญ้าคาไม่มีต้นไม้ใหญ่มองเห็นได้ไกล เฮลิคอปเตอร์มาส่งกำลังบำรุงก็สะดวก ทหารป่าได้มุดเข้าไปประชิดค่ายเพื่อดักยิงเฮลิคอปเตอร์ ทหารบ้านผู้หนึ่งเสนอว่าถ้าซุ่มยิงเฮลิคอปเตอร์ในป่าหญ้าคาเช่นนี้ อาจจะเป็นอันตรายเพราะไม่มีที่กำบังคงจะถูกเครื่องบินยิงกราด และถ้าปืนใหญ่ยิงมาจากค่ายก็จะไม่มีทางถอย ดังนั้นควรเผาป่าหญ้าคานี้เสียก่อน แล้วรีบถอยไปก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะมา แล้วไฟอาจจะลุกลามเข้าไปในค่ายด้วย เมื่อทุกคนเห็นด้วยก็ลงสู่ปฏิบัติการ เมื่อไฟลุกไหม้ลมก็ช่วยกระพือลุกลามเข้าไปในค่าย ทหารรัฐบาลในค่ายก็ยิงปืนกันสนั่นหวั่นไหว ปืนใหญ่ที่อยู่รอบ ๆ  ภูก็ระดมยิงมารอบ ๆ ค่าย เครื่องบินและไอพ่นรีบมาช่วยกันยิงกราดทิ้งระเบิดราวกับเกิดสงครามใหญ่ รุ่งเช้าทหารประชาชนจัดหน่วยสอดแนมไปสืบสภาพค่ายทหารรัฐบาล ปรากฏว่าทหารกองพันนั้นถอนกำลังกลับไปหมด ทิ้งสัมภาระที่ขนย้ายไม่ทันไว้มากมาย โดยทหารประชาชนมิได้เสียกระสุนแม้แต่นัด
     ทั้งหมดที่กล่าวเป็นเพียงบางรูปธรรมของการพลิกแพลงในทางยุทธวิธีของการต่อสู้รบของทหารประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น