ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ศึกเขาค้อ ก่อนยุทธการผาเมืองเผด็จศึก ตอนที่ ๕


ความเครียดบนใบหน้าเสือดำทำเอาแต่ละคนเข้าหน้าไม่สนิท ความเสียดายเสือใหญ่เพื่อนรุ่นน้องมันประดังเข้ามาในห้วงความคิดจนสับสนไปหมด ความสูญเสียกำลังพลครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในพื้นที่บริเวณแห่งนี้ ข่าวการปะทะ การสูญเสียของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เสือดำและเสืออื่นๆต่างทราบดี แต่มันสุดวิสัยที่จะป้องกันได้ กรณีแบบนี้หากใครไม่ประสพด้วยตัวเองจะไม่เชื่อเป็นอันขาด

“เสียงปืนอะไรวะเสือเหลือง”

“ผมอยู่ซุ่มมันต่อน่ะพี่”

“แล้วได้ศพมั้ยว่ะ”

“ได้แค่สองน่ะพี่”

ไม่ได้มีแววยินดียินร้ายใดๆ จากใบหน้าของเสือดำ

“แล้วอีก 2 ละว่ะ ไหนมึงว่ามันมี 4 คน”

“รอดไปได้น่ะพี่”

เสือดำลุกขึ้นเดินไปรอบๆพื้นที่ในสมองกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ แล้วเงยหน้าขึ้นสังเกตไปทางตะวันออก

“เสือเหลืองสั่งทุกคนตื่นได้แล้ว ระยะจวนสว่างแบบนี้พวกมันชอบเข้าเหลด”

เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะสว่าง แผนการปฏิบัติในตอนสายควรจะได้กำหนดกันเลย

“ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลยว่ะ จนกว่าจะถึงเย็น ถึงจะมีเครื่องบินผ่านมารับข่าวจากพวกเรา”

แม้ว่าทุกคนจะรู้ถึงแผนการสนับสนุนจากหน่วยเหนือเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้

“แผนการลาดตระเวนวันนี้ จัดรูปขบวนลาดตระเวนแบบสามเหลี่ยมแหลมหลัง เสือเหลืองอยู่ซ้าย เสือขาวอยู่ขวา กูจะอยู่ส่วนหลังเอง เส้นทางถือแนวภูยอดหญ้าเป็นหลัก ขณะลาดตระเวนให้หาพื้นที่ร่อนลงให้ ฮ.ด้วย บอกพวกเราทุกคนให้เข้าใจถึงภารกิจ อย่าคิดเสียอกเสียใจอะไรให้มากเกินไปนัก เรื่องแบบนี้ใครๆก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่ขอให้ระวังว่ามัวแต่เสียใจมากๆ จนไม่เป็นอันทำอะไร ผลที่ได้รับก็คือมีการตายเกิดขึ้นอีก ตอนนี้พวกเราเสียไป 3 แต่เราก็ได้คืนมา 2 เหลืออีก 1 ที่เรายังขาดทุน เพราะฉะนั้นอีก 1 ที่เราขาดทุนอยู่ เราต้องเอามาให้ได้อีก 10 มันจึงจะสมแค้น อย่าลืมว่าหากพวกเรามัวแต่เสียใจอยู่ โอกาสที่จะแก้แค้นให้พวกเราจะไม่มีเลย ขอให้ลืมความเสียใจแล้วรอโอกาสที่จะแก้แค้นมันต่อไป...”

ภายใต้บรรยากาศแห่งความสงบ ลมเย็นบนยอดภูที่โชยมาเป็นระยะๆ เสียงของเสือดำเสียดแทงเข้าไปในความรู้สึกของเหล่าบรรดานักรบทุกคน แม้จะไม่มองหน้าคนพูด แต่ความเข้าใจตามประสาของนักรบ ทุกคนย่อมซาบซึ้งเป็นอย่างดี และดูเหมือนว่ากำลังใจของทุกคนเริ่มกลับมาอีกครั้ง ความพร้อมที่เพียบไปด้วยความแค้นเท่านั้น ปืนแต่ละกระบอกถูกเจ้าของบีบเกร็งแบบไม่รู้ตัว

การเดินทางตามแนวทิศกำหนดเริ่มขึ้นในสายของวันนั้น ศพทั้ง 3 ถูกปันโจห่อแล้วมัดอย่างแน่นหนา เครื่องแต่งกายทุกชิ้นยังอยู่กับคนตาย อาวุธ กระสุน เป้หลังคนอื่นจัดการถือให้ เพราะของบางอย่างจะต้องส่งคืนกลับไปพร้อมกับศพของเขา การจัดการกับศพในการเดินทาง พวกลาดตระเวนทำแคร่ให้ศพนอนแล้วลากไปด้วยคนๆ เดียว เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเพื่อเป็นการประหยัดกำลังพล

ชุดของเสือใหญ่สมทบอยู่กับชุดเสือดำในตำแหน่งเหลี่ยมหลังของรูปสามเหลี่ยมหลังของรูปขบวนเดินทางทั้งหมด

จนกระทั่งเกือบเที่ยงของวันนั้น

“เสือดำจากเสือเหลือง”

“จากเสือดำ ส่งข่าวได้”

“ผมสงสัยว่ากำลังถูกเกาะนะพี่”

“มีรายละเอียดอีกมั้ย”

“ในระยะประมาณ 100-150 เมตร ไอ้พลลาดตระเวนหลังรายงานมาว่า พบการเคลื่อนไหวของ ผกค. 1 คนเดินทางในลักษณะสะกดรอย ตอนนี้ผมได้สั่งให้ทุกคนระวังตัวแล้ว”

“ทิศทางที่มันตามล่ะวะ”

“อยู่ในแนวทิศ 5-6-7 นาฬิกาครับพี่”

“โอเค ให้รักษาแนวทิศเดินทางต่อไป เดี๋ยวพี่จะส่งคนประกบด้านหลังมันเอง”

เป็นหน้าที่ของส่วนสนับสนุน หรือส่วนหลังของรูปสามเหลี่ยมขบวนเดินทางอยู่แล้ว เสือดำไม่รอช้า สั่งการทันที

“จ่าบุญ, ไอ้เพชร, ไอ้โมทย์, ไอ้ศร ไปกับกู เสือเหลืองกำลังถูกเกาะด้านหลัง... ไอ้เชน, ไอ้พุฒ, กับไอ้แหลม, แกะรอยด้านหลังกูในระยะ 100 เมตร ทุกคนฝากเครื่องสนามไปกับคนตายก่อน”

ในความคิดของเสือดำคือจัดชุดเล็กเท่ากับของไอ้ ผกค. ย้อนการแกะรอยของมัน ความคล่องตัวเท่านั้นที่จะได้เปรียบเสียเปรียบกัน ในระยะไม่เกิน 100-150 เมตร ถึงแนวที่เสือเหลืองเคลื่อนที่ไป ดังนั้นการแยกออกจากชุดของเสือดำต้องทำอย่างแนบเนียน เพราะไม่รู้ว่าไอ้ ผกค. มันจะเห็นการเคลื่อนไหวของพวกตนหรือไม่

ทั้ง 7 คนนั่งสงบนิ่งในที่กำบังสายตาข้างๆทาง ปล่อยให้ส่วนที่เหลือเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งคิดว่าไม่เป็นการผิดสังเกตแล้ว เสือดำจึงนำพวกลาดตระเวนอีก 3 คนค่อยๆ รุกชาร์จเข้าสู่แนวแกะรอยทันที

การรุกคืบหน้าแบบขัดขวางและต่อต้านการสะกดรอยของไอ้ ผกค. ในสภาพป่าที่รกทึบสลับป่าโปร่งแบบนี้กระทำได้ไม่ง่ายนัก ทุกคนระวังเรื่องเสียงและแนวเคลื่อนที่อย่างที่สุด สายตากวาดไปด้านหน้าและด้านข้างอย่างละเอียด แนวที่ตั้งของชุดเสือเหลืองกับชุดที่สมทบด้านหลังอีก 3 คนต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลาเช่นกัน หลายครั้งที่เสือดำต้องให้สัญญาณแก่จ่าบุญที่อยู่ด้านซ้าย กับไอ้โมทย์ ที่อยู่ทางด้านขวา ให้เข้าที่กำบังที่กำหนด และในบางครั้งก็ต้องสั่งให้สงบนิ่ง รอให้เสือดำรุกไปข้างหน้าก่อนแล้วจึงหันมาให้สัญญาณให้ตามไปภายหลัง ชั่วโมงแรกของการแกะรอยยังไม่ปรากฏวี่แววของไอ้ ผกค.ชุดนั้น

“เสือเหลืองจากเสือดำ”

“จากเสือเหลือง”

“เห็นไอ้พวกผักกาดเค็มอีกหรือเปล่า”

“ตอนนี้อยู่ประมาณยอดเนินทางด้านซ้าย 8 นาฬิกานั่นแหละพี่ ผมว่ามันกำลังมองทางผมอยู่”

“โอเค เสือเหลือง เดินทางต่อไป เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

เสือดำมองไปทางยอดเนินทางด้านซ้าย 10 นาฬิกา แล้วให้สัญญาณกับปีกซ้ายขวาทั้ง 2 คน ระยะอีกประมาณ 200-300 เมตรจะถึงตีนเนินนั้น ป่าโปร่งที่มีแต่ไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม ดูแล้วไม่ยากนักถ้าจะเคลื่อนตัวให้ถึงภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้ ทั้ง 4 คนออกชาร์จอย่างรวดเร็วทันที จนกระทั่งถึงตีนเนินมองเห็นไอ้ 3 คนที่ตามมาอยู่ทางด้านหลังในระยะประมาณ 100 เมตร

เสือดำนำหน้าด้วยตัวเอง ความเป็นผู้นำแสดงออกแม้ในยามที่เสี่ยงที่สุดยามนี้ ไอ้ศรพลวิทยุถอยออกไปทางด้านหลัง เหมือนกับจ่าบุญกับไอ้เพชรที่ค่อยๆ ย่องเงียบตามมาทางด้านหลัง ความเงียบและความใจเย็นเท่านั้นที่พวกแกะรอยต้องระวัง เสือดำสั่งการให้ไอ้เพชรกับจ่าบุญหยุดอยู่กับที่ ในขณะที่ตนเองรุกเงียบตัดขึ้นยอดเนินนั้น อาการเดินแบบค่อยย่องอย่างมั่นคง กับการส่ายสายตากวาดไปมา มันเป็นอาการของเสือร้ายที่กำลังเข้าสังหารเหยื่อจนกระทั่งแน่ใจว่าเสือดำถึงจุดที่สูงที่สุดของเนินนั้นแล้ว กำลังส่วนที่เหลือจึงรุกขึ้นสมทบ

เสือดำทำสัญญาณเรียกทั้ง 3 คนเข้าไปสมทบ พร้อมกับชี้ที่กำบังให้เข้า

ภาพที่ปรากฏคือ ผกค. 4 คน อาวุธครบมือ เครื่องแต่งกายสีดำเก่าๆ กำลังจะออกเดินทางต่อไปทางทิศตีนเนิน มันกำลังจะแกะรอยชุดเสือเหลืองต่อนั่นเอง เสือดำทำสัญญาณให้ให้ระดมยิงโดยไม่ต้องมีการแบ่งเป้าหมาย ใครถนัดเป้าไหนให้ซัดเป้านั้น

เสือดำประทับเล็งในท่านอนยิง อีก 3 คนทำตามเหมือนกัน ทั้ง 4 ร่างของไอ้ ผกค. ในท่ายืนขึ้นเตรียมจะออกเดินทางอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงไป ห่างประมาณ 50 เมตร มันไม่รู้ตัวหรอกว่ามัจจุราชกำลังจะเข้าสะกิดหลังมัน จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างเหมาะสม

ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”
ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”
ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”
ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”

เสือดำปล่อยกระสุนออกไปก่อน อีก 3 กระบอกปล่อยตามทันทีในเวลาที่ติดๆกัน ไม่มีการเลี้ยงกันเลย ฝ่ายซุ่มยิงปล่อยกระสุนจนหมดแม็กกาซีน หัวกระสุนกระทบกิ่งไม้ แง่หินและโขดหินกระจุยกระจายทั่วบริเวณนั้น

ทั้ง 4 คน มองเห็นกับตาว่า ไอ้ ผกค. ต้องสังเวยชีวิตครั้งนี้ 2 คนในทันทีทันใด ร่างของมันล้มแล้วกลิ้งลงเขาไป ไม่รู้ปืนผาหน้าไม้มันจะหลุดกระเด็นไปทางใด เหลืออีก 2 มันล้มแล้วกลิ้งเข้าที่กำบังอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บเข้าด้วย

“ชาร์จจจจ!...”

เสือดำตะโกนลั่นสั่งการ แล้วนำหน้าทั้ง 3 คนทันที อีก 3 คนก็ต้องชาร์จตาม แม้จะยังเปลี่ยนซองกระสุนไม่เสร็จ ก็ต้องชาร์จไป เปลี่ยนซองกระสุนไป

ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”

เสือดำยิงนำเบิกทางไปก่อน

“ไอ้เพชร รุกเข้าไปอีก”

ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”

ไอ้เพชรรุกต่อพร้อมกับจ่าบุญที่เข้าที่แล้วยิงกราดออกไปอีก เสือดำไม่ได้สั่งอย่างเดียว เมื่อเห็นจ่าบุญยิงตรึงจึงถือโอกาสชาร์จต่ออีกคู่กับไอ้ศร พลวิทยุที่ไม่เคยออกห่าง
ศพไอ้พวก ผกค. มันเห็นอยู่ข้างหน้าไประยะเพียง 20 เมตร ต้องเข้าถึงศพมันให้ได้ เสือดำคิด

“จ่าบุญ รุกขึ้นอีก”

ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”
ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”

เสือดำยิงนำให้อีก 2 ชุด ทั้ง 4 คนเริ่มสงสัยแล้วว่า การรุกชาร์จเข้ามาทั้ง 2 ระยะแล้วทำไมจึงไม่มีเสียงปืนตอบโต้มาทางด้านไอ้ ผกค. เลยแม้แต่คนเดียว มองไปทางไอ้เพชร ทางด้านซ้ายเห็นปักหลักนิ่งอยู่หลังโคนต้นไม้ใหญ่ ในตำแหน่งระวังซ้ายได้อย่างดีที่สุด

เสือดำรุกคืบหน้าต่ออีกในระยะสั้นๆ

ปัง...ปัง...ปัง...ปัง!...”

เสียงปืนทางด้านไอ้เพชรดังขึ้น เสือดำมองไปทางทิศทางนั้น

“มีอะไรวะเพชร”

“ผมได้ยินเสียงมันวิ่งน่ะครับ”

“ชาร์จตามอีกทีสิวะ”

เสือดำสั่งทันที ไอ้เพชรก็ไวทายาท รุกคืบต่อทันที ในทิศทางที่ต้องวิ่งลงเนิน ทำให้ฝ่ายเสือดำเคลื่นที่ได้เร็วกว่าปกติ

เสือดำรุกต่อจนกระทั่งถึงศพของไอ้ 2 ผกค.นั้น ก็ไม่ได้จัดการอะไรกับศพมัน ใช้เพียงหางตามองนิดเดียวแล้วเข้าที่กำบังไป ไอ้ศรพลวิทยุจัดการยึดปืนอาร์ก้า 2 กระบอกทันที เสือดำหยุดอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่ไอ้ ผกค. มันเคยใช้เป็นที่กำบังมองเห็นไอ้เพชรกับจ่าบุญรุกเยื้องไปทางด้านหน้า ใช้ความคิดชั่วครู่แล้วสั่งการให้ทั้ง 2 คนถอนตัวทันที

การถอนตัวของทั้ง 4 คน ทำกันอย่างกับว่ากลับจากยิงนกเล่น มันเป็นแผนการอยู่แล้ว เหมือนเจตนาจะให้มันเห็นว่าเราถอนตัว ทั้ง 4 คนเดินเลาะตามไหล่เขา ตัดเข้าหาชุดหลังที่ตามมาอีก 3 คน ซึ่งตลอดเวลาทั้ง 3 คนไม่ได้แสดงอาการใดๆให้ปรากฏแม้แต่น้อย จนกระทั่งเสือดำมาถึงแนววางตัวของไอ้เชน ไอ้พุฒและไอ้แหลม

“3 คนมึงซุ่มต่ออีกนิด ซัก 15 นาทีแล้วค่อยถอนตัวตามไป”

ทั้ง 3 คนรับคำสั่งชนิดที่ไม่ต้องซักถามอะไรอีก

คำรายงานที่ทั้ง 3 คนนำมารายงานแก่เสือดำเมื่อกลับมาถึงฐานที่พักแล้วก็คือ เห็นไอ้ ผกค. 1 คนกลับมาเอาศพของเพื่อนมันทั้ง 2 กลับไป แต่ระยะมันไกลเกินกว่า 100 เมตร จึงต้องปล่อยให้มันกลับไปอย่างลอยนวล

เสือดำรับทราบถึงปัญหาข้อขัดข้องอันนี้ เพียงเท่านี้ก็พอที่จะสรุปได้ว่าความเสียหายของไอ้ ผกค.ก็คือตาย 2 บาดเจ็บ 1 และที่บาดเจ็บอาจตายแล้วก็ได้ แล้วหันมาสนใจวิทยุต่อไปอีก

“เสือขาวจากเสือดำ เปลี่ยน”

“จากเสือขาว ได้ผลเป็นไงบ้างพี่”

เสือขาวสอบถามทันที เพราะธรรมดามันก็ต้องเป็นห่วงกันอยู่แล้ว

“ของมันตายคาที่ 2 เจ็บ 1 ของเราปลอดภัย ตอนนี้กลับมาหมดแล้ว แล้วพวกเราล่ะวะ เป็นไงบ้าง”

“ทางผมเรียบร้อยพี่”

“เสือเหลืองล่ะวะ”

“ทางผมเรียบร้อยพี่”

เสือเหลืองตอบทันที เพราะสถานการณ์แบบนี้มันต้องคอยเฝ้าฟังวิทยุอยู่แล้ว

“โอเค ให้กำลังทั้งหมดเดินทางไปสมทบกับชุดเสือขาว เดี๋ยวเราต้องเคลียร์พื้นที่ให้ ฮ.ลงรับศพ”

เวลาเพิ่งจะบ่าย ชุดลาดตระเวนยังมีเวลาเพียงพอที่จะเตรียมการ กำลังทั้งหมดเริ่มออกเดินทางทันที เรียกได้ว่ากลิ่นคาวเลือดยังไม่ทันจะหายทีเดียว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น