ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

ช่องบก สมรภูมิพิทักษ์แผ่นดินไทย ตอนที่ ๒

                                                    ช่องบก สมรภูมิพิทักษ์แผ่นดินไทย
                                                                           ตอนที่ ๒
                        เหตุการณ์รบที่สามเหลี่ยมมรกต ช่องบก อ.น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีปะทุขึ้น เนื่องมาจากชาวกัมพูชาและกองทหารเขมรแดง และเขมรเสรีได้หลบหนีเข้ามารวมกลุ่มเป็นกองกำลังต่อต้านเฮงสัมริน โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มกองกำลังรักชาติ ตลอดตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณช่องบก กลุ่มเขมรแดงหรือเขมรเขียวสัมพันธ์ ได้มารวมกลุ่มตั้งเป็นกองบัญชาการในการต่อต้านกำลังต่างชาติ และใช้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนที่อพยพติดตามเข้ามา รวมประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน ได้ทำการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งในเขตไทยและกัมพูชา เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการส่งกำลังเข้าไปต่อต้านและทำลายกำลังทหารเวียดนามและรัฐบาลเฮงสัมรินที่ยึดครองกัมพูชา นอกจากนั้นบริเวณช่องบกยังเป็นคลังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่มกองกำลังรักชาติ(กรช.) และเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการที่สำคัญในการส่งกองกำลังเข้าปฏิบัติการรบแบบกองโจรต่อทหารเวียดนามในพื้นที่กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น  บริเวณช่องบกจึงเป็นเป้าหมายสำคัญต่อการโจมตีของกองทัพเวียดนามที่ต้องการควบคุมชายแดนไทยในด้านนี้ไว้ให้ได้อย่างเด็ดขาด เพื่อตัดการสนับสนุนและส่งกำลังบำรุงต่อเขมรแดง ซึ่งครอบครองบริเวณนั้นอยู่และเป็นการเตรียมการรุกใหญ่เมื่อถึงเวลาเพื่อยึดภาคอิสานของไทยด้วยกำลังขนาดใหญ่ ไม่ใช่ชายแดนด้านนี้ด้านเดียวยังมีพื้นที่อื่นๆที่เป็นเขตเคลื่อนไหวของเขมรแดงและเป็นที่ตั้งคลังอาวุธและเสบียงอาหารเพื่อสนับสนันกองกำลังนักรบเขมรที่ต่อต้านเวียดนามเช่นที่บ้านผักกาดอำเภอโป่งน้ำร้อนกับกรุงไพรินเมืองหลวงของเขมรแดงจนเกิดเหตุการณ์รบที่บ้านหนองกกเนินดินแดงตำบลเทพนิมิตร อำเภอโป่งน้ำร้อนของทหารนาวิกโยธินและบ้านสะพานหินอำเภอเมืองตราดการรบที่ดุเดือดของนาวิโยธินในยุทธการชำรากฐานปฏิบัติการต่อต้านเวียดนามที่ช่องบกเคลื่อนไหวทางทหารตั้งแต่เขมรแดงพ่ายแพ้ต่อกองทัพเวียดนามเฮงสัมรินจนถึง ปี๒๕๒๘ กองพลทหารราบที่๗๓๓ของเวียดนามและ กองพลทหารราบเขมรเฮงสัมริน ก็  ส่งกองกำลังเข้ามาโจมตีจนเขมรแตกถอยร่นลึกเข้ามาในเขตแดนไทยกำลังของเวียดนามรุกไล่เข้ามาในเขตแดนไทยบริเวณช่องบกลึกประมาณ ๕ กม.เข้า ยึดเนินสำคัญ ๆได้แก่ เนิน ๕๐๐,๔๐๘,๓๘๒ และ ๓๙๖ ของเทือก เขาพนมดงรักที่กั้นเขตแดนไทยกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าทึบซ่อนพราง ยากแก่การตรวจการณ์ ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ กองทัพเวียดนามได้ตั้งฐานที่มั่น อย่างถาวรก่อสร้าง บังเกอร์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีระบบเครื่องปั่นไฟ ตั้งปืนต่อสู้อากาศยาน และจรวดต่อสู้อากาศยานเพื่อป้องกันการโจมตีของเครื่องบินรบฝ่ายไทย อีกทั้งรายล้อมด้วยฐานปืนใหญ่ขนาด ๑๒๒ม.ม.๑๐๕ ม.ม.และ๑๓๐ ม.ม.เอาไว้จำนวนมากซึ่งฐานปืนใหญ่เหล่านี้ให้การยิงสนับสนุนกองทัพเวียดนามได้ครอบคลุมทั้งในลาวและกัมพูชา และเวียดนามได้ดัดแปลงปราสาทพระวิหารบางส่วนเป็นฐานส่งกำลังบำรุงในเขตสูรบนี้มีทั้งคลังเสบียงและคลังอาวุธและกระสุนปืนใหญ่ ในระหว่างนั้นกองกำลังเขมรแดงได้เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของเวียดนามอยู่เป็นระยะมีการใช้อาวุธหนักยิงถล่มตอบโต้กันยุทธวิธีของเขมรแดงใช้วิธีรบแบบกองโจรมีปืนไร้แรงสะท้อนและ เครื่องยิงลูกระเบิดยิงสนับสนุนส่วนกองกำลังเวียดนามใช้การรบตามยุทธวิธีตั้งรับแบบเหนียวแน่นโดยดัดแปลงที่มั่นเป็นสนามเพลาะมีคูเชื่อมต่อตลอดแนวตั้งรับมีบังเกอร์แข็งแรงแบบปิดสนับสนุนด้วยรถถังปืนใหญ่เต็มอัตรา   กองรักษาด่านรบของกองพันทหารราบเฉพาะกิจ จึงรายงานให้กองกำลังสุรนารีทราบถึงการรุกล้ำอธิปไตย   เนื่องจากเวียดนามยึดที่หมายทางทหารที่มีภูมิประเทศสูงข่ม ซึ่งแนวโน้มจะมีการใช้เป็นที่ตั้งถาวรสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารลึกเข้ามาในประเทศมากขึ้น จึงจำเป็นที่ทางกองทัพไทยต้องเร่งผลักดันฐานทัพของเวียดนามให้พ้นแผ่นดินไทยให้ได้ในเร็ววัน
ปลายปีพ.ศ. ๒๕๒๙ใน เดือนตุลาคม   กองกำลังสุรนารีในฐานะกองกำลังป้องกันประเทศที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้สั่งให้กรมทหารราบเฉพาะกิจที่๑๖(กรมทหารราบที่ ๑๖ ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร) ผลักดันกองกำลังเวียดนามเฮงสัมรินที่รุกล้ำอธิปไตยของไทย โดยใช้กองพันทหารราบเฉพาะกิจที่๑๖๒ กองกำลังทหารพราน ร้อยลาดตระเวนระยะไกลและกองพันทหารปืนใหญ่เป็นส่วนยิงสนับสนุนการผลักดันครั้งนี้ ปฏิบัติการเข้าตีเริ่มขึ้นในระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ.๒๕๓๐  กองกำลังเวียดนามได้ดัดแปลงที่มั่นแข็งแรงบริเวณเนิน๓๙๖ เนิน ๓๘๒ เนิน ๔๐๘ และเนิน ๕๐๐ ในแต่ละที่มั่นสามารถเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  ประกอบกับภูมิประเทศเป็นเขาสูงชันป่ารกทึบ   เมื่อครั้งเขมรแดงถอยร่นออกจากพื้นที่ที่ตั้งฐานปฏิบัติการซึ่งก็คือเนินต่างๆเหล่านี้ มีการวางกับระเบิดที่ผลิตจากจีนป้องกันกำลังทหารเวียดนามเข้าโจมตี ครั้น เวียดนามเข้าตีขับไล่เขมรแดงไปได้ก็ได้วางกับระเบิดซึ่งเป็นชนิดใหม่ มีขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้การฝังแบบปกติ แต่เป็นลูกเล็ก ๆ ซึ่งทางเวียดนามจะส่งกองกำลังแทรกซึมเข้ามาเป็นชุดเล็ก ๆ นำระเบิดมาวางตามแนวป่า และพงหญ้า เมื่อเสร็จก็ถอนกำลังออกไปอย่างรวดเร็ว ระบิดแบบนี้ไม่ทำให้ถึงตาย แต่ทำให้ทหารที่เหยียบขาขาดไปเกือบถึงหัวเข่า ซึ่งมีทหารจำนวนมากที่บาดเจ็บจากกับระเบิดชนิดนี้ ฝ่ายเราต้องรุกจากที่ต่ำไปยังที่สูง ประสบความยากลำบากในการเคลื่อนที่ และการดำเนินกลยุทธ์ เข้าสู่ที่หมายและต้องเผชิญกับการระดมยิงด้วยอาวุธหนักโดยเฉพาะปืนใหญ่๑๒๒ ม.ม. ๑๐๕ม.ม.และ๑๓๐ ม.ม.ที่มีฐานยิงทั้งจากด้านประเทศลาวและกัมพูชาโดยทำการยิงสนับสนุนการตั้งรับเป็นชุดๆ ครั้งละ ๕๐นัด ถึง ๒๐๐นัดโดยที่การยิงต่อต้านปืนใหญ่ของฝ่ายเราที่ต้องยิงทำลายฐานปืนใหญ่เวียดนามไม่สามารถยิงได้เนื่องจากอยู่ไกลกว่าระยะยิง  ขณะที่ปืนใหญ่๑๐๕ม.ม.ของฝ่ายเราที่ใช้สนับสนุนกองพันเข้าตีใช้วิธีลากยิงหากยิงแล้วตั้งอยู่กับที่  เรดาห์ค้นหาเป้าหมายของเวียดนามจับทิศทางได้จะโดนยิงสวนกลับภายในไม่เกิน๕นาที ส่วนบนภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ป่ารกทึบสลับเนินเขาเต็มไปด้วยกับระเบิด  ทำให้กำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายคน ด้านเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังที่ตั้งในที่สูงข่มสามารถตรวจการการรุกคืบหน้าของฝ่ายไทยได้อย่างชัดเจน ก็ระดมยิงจนทหารไทยไม่สามารถรุกคืบหน้าไปได้ สามารถเข้าประชิดที่หมาย เนิน ๓๘๒ในระยะ ๓๐๐ เมตรส่วนด้านเนิน ๔๐๘ สามารถดำเนินกลยุทธ์ จนถึงระยะ ๑๐๐ เมตร 
เนื่องจากลักษณะที่หมายเป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง และมีการวางทุ่นระเบิดกับระเบิดอย่างหนาแน่น ได้มีการกู้กับระเบิดได้ถึง ๓,๐๐๐ลูก ระหว่างการเข้าตีพร้อมทั้งยังถูกอาวุธยิงสนับสนุนยิงตัดรอนตลอดเวลามีการสูญเสียกำลังพล  การส่งข่าวของวิทยุสื่อสารถูกข้าศึกจับคลื่นได้มีการลวงเลียนและส่งคลื่นรบกวนไม่สามารถใช้วิทยุสื่อสารได้ดี   น้ำใช้ในภูมิประเทศก็ไม่สามารถใช้ได้ด้วยพบการโปรยสารพิษทุกลำธาร  จากการสูญเสีย ทำให้ฝ่ายเราต้องถอนกำลังมาปรับกำลังเพื่อจะทำการเข้าตีใหม่ ครั้งที่๒แต่สถานการณ์ก็เป็นแบบเดิม จนต้องถอยลงมาอีกครั้ง ในวันที่ ๒๘ ก.พ.๒๕๓๐จึงได้รับการเพิ่มเติมกำลังจาก กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๖ ในระหว่างการรุกคืบหน้ามีการปะทะอย่างหนักกับกองทัพเวียดนามจนถึงวันที่ ๒๕ มี.ค.๒๕๓๐กองพันทหารราบที่๓กรมทหารราบที่ เข้าตีต่อที่หมายเนิน ๓๘๒ คือ ทิศทางด้านหน้า ทางด้านปีกซ้ายและปีกขวา ฝ่ายเราถูกต้านทานอย่างหนัก ทั้งอาวุธวิถีตรงและอาวุธวิถีโค้ง กำลังทางด้านซ้ายเข้าตะลุมบอนกับข้าศึก โดยการรบประชิดด้วยการยิงปืนเล็กและใช้เครื่องฉีดไฟ ข้าศึกจึงได้ถอนตัวออกจากที่มั่นไปยังหลังเนินวางกำลังในแนวตั้งรับอีกแนว และได้ทำการยิงต่อต้านฝ่ายเราอย่างรุนแรงและหนาแน่น ทำให้ฝ่ายเราประสบความสูญเสียจำนวนมาก  จึงให้ฝ่ายเราวางกำลังดัดแปลงที่มั่นและควบคุมที่หมายเอาไว้ ผลการปฏิบัติครั้งนี้ทำให้ฝ่ายเราสามารถยึดที่หมายได้บางส่วน  ทางด้านที่หมายเนิน ๔๐๘ กองพันทหารราบที่๒กรมทหารราบที่๑๖  ใช้กำลัง  ชุดปฏิบัติการจากกองร้อยทหารราบ และ  ชุดปฏิบัติการจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล แทรกซึมโอบล้อมทางด้านขวา(ทิศตะวันตก) เนิน ๔๐๘ แล้วรวมกำลังเข้าดำเนินกลยุทธ์ต่อที่หมาย บก.ร้อย ๙ ของข้าศึกในวันที่ ๒๕ มีนาคม ชุดปฏิบัติการขนาดเล็กทั้ง  ๑๒ ชุด ได้ดำเนินกลยุทธ์เข้าสู่ที่หมายอย่างจู่โจม สามารถสังหารข้าศึกได้ในบังเกอร์  ศพ  และยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้จำนวนมากในขณะเดียวกันฝ่ายเราได้วางกำลังซุ่มโจมตีเส้นทางระหว่างปากช่องบกกับที่หมาย บก.ร้อย.๙ สามารถสังหารข้าศึกได้อีก ๑๒ ศพ หลังจากฝ่ายเรายึดที่หมายบก.ร้อย.๙ ได้ ฝ่ายเราได้ถูกระดมยิงจากอาวุธหนักของฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักทำให้ไม่สามารถควบคุมและต้านทานไว้ได้ ประกอบกับด้านหน้าเนิน ๔๐๘ ได้ใช้ กำลังชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก  ของ  กองร้อยทหารพรานจู่โจมดำเนินกลยุทธ์ต่อเข้าตีที่หมายเนิน ๔๐๘ได้พยายามเข้าตีถึง   ครั้ง แต่ก็ถูกต้านทานอย่างหนัก  ฝ่ายเราสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้ที่หมาย เหลือระยะประมาณ ๘๐ ๑๐๐ เมตร จะถูกฝ่ายตรงข้ามระดมยิงด้วยอาวุธทุกชนิดด้วยความแม่นยำและยิงอย่างต่อเนื่องทำให้ฝ่ายเราได้รับการสูญเสียเป็นจำนวนมาก จึงต้องถอนตัวออกจากการรบ เพื่อทำการส่งกลับผู้บาดเจ็บต่อไปในการกลับไปกู้ศพทหารหาญที่สละชีวิตบนผืนแผ่นดินไทยแต่เป็นที่มั่นของข้าศึก กลับได้พบกับข้อความภาษาไทยอย่างเย้ยหยันว่าให้เอากรมทหารราบที่ ๒๓ มาเจอกัน(สาเหตุที่พบข้อความนี้น่าจะมาจากเหตุการณ์ที่พล.ร.๗ กรม.ร.๗๓๓ของเวียดนาม กองพลนี้ที่กำลังรุกล้ำชายแดนไทยที่ช่องบก ขณะนั้นได้รุกล้ำอธิปไตยด้านอำเภอสังขะและอำเภอบัวเชดจังหวัดสุรินทร์พัน.ร.ฉก.๒๓๑ ของกรมทหารราบที่๒๓ เข้าผลักดันสามารถสังหารทหารเวียดนาม และยึดยุโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมากจึงสร้างความโกรธแค้นต้องการแก้แค้นในการรบครั้งนี้ที่เวียดนามเตรียมการณ์เป็นอย่างดี การต่อสู้ยังไม่ยุติตราบใดที่กองทัพต่างชาติยังยึดอยู่บนแผ่นดินไทย 
๑ เม.ย.๒๕๓๐ กองทัพภาคที่ ๒  จัดตั้ง ทก.ยุทธวิธี บริเวณริมถนนทางไปอำเภอน้ำยืนห่างพื้นที่การรบ ๓๐ ก.ม. เพื่อควบคุม และอำนวยการยุทธ์ในพื้นที่โดยพล.ท.อิสระพงศ์  หนุนภักดีแม่ทัพภาคที่๒ สั่งการให้เข้าตีเนิน ๔๐๘ เนิน๓๘๒ เนิน๕๐๐เพื่อยึดที่หมายผลักดันข้าศึก ใน  ทิศทางโดยทิศทางหลักใช้กำลังผสมกำลังจากกรมทหารพรานที่ ๒๖ และกรมทหารพรานที่ ๒๑ เข้าตีทางทิศตะวันตกของเนิน ๕๐๐ และใช้กำลังอีก  กองร้อยทหารราบ เข้าตีทิศทางรองทางด้านทิศตะวันออก  และทิศเหนือของที่หมายสนับสนุนด้วย ปืนใหญ่ และกำลังทางอากาศ ก่อนกำหนดเข้าตีที่หมายฝ่ายเราได้ส่งชุดลาดตระเวนหาข่าวเป็นชุดจากร้อยลาดตระเวนระยะไกลโดยมีทหารเขมรเสรีที่เคยยึดครองพื้นที่บริเวณนี้มาก่อนเป็นผู้นำทางเพื่อหาข่าวบริเวณที่หมายเพื่อทำแผนเข้าตีให้สมบูรณ์ ชุดลว.เหล่านี้ต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากโขอยู่ด้วยกับระเบิดและปืนใหญ่ที่ระดมยิงเมื่อกับระเบิด เกิดระเบิดขึ้น    หลังจากเตรียมการเข้าตีจนพร้อมแล้วการยิงเตรียมด้วยปืนใหญ่ ๖ กองร้อยใช้กระสุนเป็นหมื่นนัดตั้งแต่๐๕๐๐ ก็เริ่มต้นขึ้นใช้เวลา๒๐นาที หลังยิงเตรียมเสร็จสิ้นลง  เช้าตรู่ของวันที่ ๑๔ เม.ย.๒๕๓๐ กำลังฝ่ายไทยทำการเข้าตีที่หมาย เนิน ๔๐๘,๕๐๐,๓๘๒ โดยพร้อมกันแต่การรุกเป็นไปอย่างช้าๆเพราะต้องคอยหยุดหน่วยกู้กับระเบิดไปตลอดทางกว่าจะผ่านได้๑๐๐เมตรใช้เวลาเป็นชั่วโมงและเป็นทางขึ้นเนินบีบไปหาบังเกอร์ตรวจการณ์ด้านหน้าที่ข้าศึกคอยต้อนรับด้วยปืนกลและขอยิงด้วยปืนใหญ่ ในขั้นต้นฝ่ายไทยสามารถเข้าถึงเนิน๔๐๘ และเนิน๓๘๒ โดยได้รับการต้านทานเป็นระยะๆ จากกำลังส่วนระวังป้องกันของเวียดนามส่วนกำลังหลักของเวียดนามได้ถอนตัวไปก่อนแล้วเมื่อเข้าถึงที่หมายได้ขณะสถาปนาที่มั่นตั้งรับปืนใหญ่ของฝ่ายเวียดนามก็ระดมยิงจนไม่สามารถดัดแปลงที่มั่นตั้งรับได้ไม่นานกำลังเวียดนามระลอกแรกก็ ได้ทำการตีโต้ตอบ โดยมี ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และ ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังสนับสนุนอย่างใกล้ชิดเวียดนาม ใช้กำลังเข้าตีโต้ตอบ เป็นละลอก และต่อเนื่อง ฝ่ายไทยซึ่งมีเวลาจำกัดในการดัดแปลงที่มั่น ขาดความหนุนเนื่อง ในการส่งกำลัง เส้นทางยากลำบาก ไม่สามารถต้านทานได้ วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๐ จึงทำการถอนกำลังออกจากเนิน๔๐๘และเนิน๓๘๒กลับมาที่รวมพลบริเวณถ้ำบอน  ห่างจากที่หมายทางทิศเหนือ ประมาณ  กิโลเมตร  เพื่อทำการปรับกำลังและลำเลียงผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ ทั้งทหารราบ และทหารพรานเป็นร้อยคนและศพเพื่อนทหารอีก๔๕ นายลงไปแนวหลังที่ทก.ยุทธวิธี ส่วนด้านเนิน๕๐๐ก็เช่นเดียวกัน กรมทหารพรานที่๒๖สามารถเจาะเส้นทางกู้กับระเบิดจนเข้าตีถึงหน้าที่มั่นแต่ต้องพบกับห่ากระสุนปืนใหญ่ที่ปืนใหญ่ฝ่ายเราไม่สามารถต่อต้านได้สำเร็จมีทหารพรานเสียชีวิตที่ เนิน๕๐๐ไม่สามารถกู้ศพมาได้ ๕ นาย การ ประเมินกำลังของข้าศึกจากการเข้าตีทั้งสองห้วงเวลาแล้วประสพความล้มเหลวไม่สามารถผลักดันข้าศึกได้ การเข้าตีครั้งต่อไปหากใช้ยุทธวิธีเดิมความสูญเสียจะเกิดขึ้นอย่างมากโดยการสูญเสียจากกระสุนปืนใหญ่ เพราะข้าศึกตั้งรับในที่มั่นแข็งแรงบนที่สูงข่มการยิงเตรียมไม่สามารถตัดรอนกำลังข้าศึกให้อ่อนลงได้ เนื่องจากข้าศึกอยู่ในหลุมบุคคลปิดด้วยท่อนซุงเสริมมูลดินส่วนที่บังคับการเป็นบังเกอร์คอนกรีตเสริมเหล็ก  ขณะดำเนินกลยุทธ์ต้องผ่าดงกับระเบิดที่เวียดนามส่งหน่วยลาดตระเวนมาวางดักเอาไว้อย่างหนาแน่นเมื่อต้องหยุดหน่วยจะถูกโจมตีด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่สนาม เมื่อเข้าตีตรงหน้าของแนวปะทะแรกซึ่งเป็นบังเกอร์แรกของชุดตรวจการณ์หน้า(ที่ฟังการณ์ในเวลากลางคืน)หากเวียดนามสู้ฝ่ายไทยไม่ได้จะถอนตัวลงคูวิ่งเข้าแนวตั้งรับวงถัดไป เพื่อลดการสูญเสียเวียดนามจะถอนตัวไปที่รวมพลก่อนรบแตกหักเมื่อไทยยึดที่หมายได้เวียดนามที่เตรียมยิงทำลายบนที่ตั้งตนเองเอาไว้โดยเตรียมหลักฐานเอาไว้ก่อนที่ไทยจะเปิดการโจมตี จะยิงพร้อมกัน ณ ที่หมายด้วยปืนใหญ่ทุกชนิด ซึ่งสร้างความสูญเสียกับทหารไทยอย่างมาก การศึกครั้งนี้ไม่ใช่เราเข้าตีฝ่ายเวียดนามอย่างเดียว ฝ่ายเวียดนามก็เข้าตีฝ่ายเราเช่นเดียวกันขณะที่กองร้อนอาวุธเบาของเราอยู่ในที่ตั้ง เนิน ๔๓๖ ด้านปีกขวาเนิน๕๐๐ของกองพันเวียดนามที่๗เวียดนามก็รุกเข้าตีหลายครั้งโดยเข้าตีเป็นระลอกทั้งคืนแม้โดนระเบิดเคโมตายคาลวดหนามก็ไม่ถอยเสริมกำลังเข้าตีจนเราไม่ได้หลับได้นอนตั้งฐานอยู่มีแต่สูญเสียหลายวันเข้าต้องถอนกำลังออกมา สรุปว่าเราต้องรบทั้งรุก ทั้งรับแต่หัวใจของการแพ้ชนะอยู่ที่ปืนใหญ่ดังนั้นเมื่อทราบยุทธวิธีของข้าศึกฝ่ายยุทธการจึงปรับแผนเข้าตีโดย ต้องทำลายที่ตั้งปืนใหญ่ข้าศึกให้ได้ ต้องเข้าตีที่หมายแบบมีที่กำบังและพร้อมตั้งรับในที่กำบังเมื่อหยุดหน่วยนั่นก็คือใช้การรบแบบป้อมค่ายที่เคยใช้ในการรบที่เขาค้อสำเร็จมาแล้ว ส่วนน้ำในพื้นที่ห้ามใช้อย่างเด็ดขาด การส่งกำลังในแนวหลังจัดวางการป้องกันอย่างรัดกุมการระวังป้องกันใช้ทหารพรานลาดตระเวนรบ และซุ่มโจมตีจนสามารถครองอิทธิพลในพื้นที่การรบตรึงข้าศึกให้ตั้งรับบนฐานที่มั่น เมื่อได้เวลา น หมู่ปืนเล็ก และชุดปฏิบัติการของทหารพรานของส่วนเข้าตีหลักและส่วนเข้าตีสนับสนุนที่กระจายเต็มเส้นหลักการรุก     ก็รุกคืบหน้ามุ่งสู่ที่หมาย พร้อมยิงสนับสนุนด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและ ปืนใหญ่สนาม ทั้งหมู่วางตัวเร่งขุดหลุมบุคคลและขุดคูติดต่อทิศทางมุ่งเข้าหาที่หมายท่ามกลางการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดโจมตี การเจาะคูรบมุ่งเข้าหาที่หมายทุกทิศทางแทรกซึมเข้าหาฐานข้าศึกอย่างช้าๆจนกองร้อยทหารราบที่ ๒๓๓๓ สามารถควบคุม เนิน๓๖๐ไว้ได้ โดย พัน.ร.จึงสั่งการดัดแปลง เป็นที่มั่นแข็งแรงกำลังพลลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ทำป้อมสนามและอาวุธยุทโธปกรณ์ ด้วยการแบกหาม   เผชิญหน้าข้าศึกบนเนิน ๕๐๐พิกัดWA๒๐๖๘๖๖  เพื่อเข้าตีขั้นต่อไป ที่มั่นเนิน๕๐๐เป็นที่ตั้งกองพันทหารเวียดนามที่๗ กรมที่๗๓๓ซึ่งเป็นทหารราบภูเขาขนาดกองพันตั้งรับอย่างเหนียวแน่น ทหารพรานจะขุดบังเกอร์รุกเข้าหาฐานทหารเวียดนามอย่างต่อเนื่องและไม่ยิงปะทะโดยไม่จำเป็น เมื่อเข้าไกล้ในระดับหนึ่งจะหยุด ปรับรูปขบวนคอยเวลาผ่านแนวออกตีการส่งกำลังและอาวุธเข้ามา ตรึงกำลังแบบเผชิญหน้าสามารถตรวจการณ์ด้วยตาเปล่ามองเห็นกันได้ ทำให้ฝ่ายเวียดนามสับสน เพราะไม่ทราบว่าทหารไทยจะเอายังไง อีกทั้งยังอยู่ในระยะใกล้ ฐาน ยากต่อการยิงปืนใหญ่ การเกาะติดฐานของทหารไทยโดยไม่เข้าโจมตี ทำให้ฝ่ายเวียดนามกดดันเป็นอย่าง  ก่อนเช้าตรู่ของวันที่๑ มิถุนายน ๒๕๓๐ การเข้าตีแบบลักลอบไม่มีการยิงเตรียมก็เริ่มขึ้น ระยะใกล้กันมากการเข้าตีครั้งนี้ใช้ กองร้อยที่๑และที่๒ของกองพันทหารราบที่๔ กรมทหารราบที่๒๓ค่ายสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกจังหวัดบุรีรัมย์โดย กองร้อยทหารราบที่ ๒๓๔๑เป็นส่วนเข้าตีหลักกองร้อยที่ ๒๓๔๒เป็นกองหนุน  พร้อมกันนั้นชุดรบพิเศษหลายชุดฝ่ายยุทธการวางแผนเข้าตีใหม่ โดยเปิดแนวรบนอกเขตต่อสู้ หน่วยรบพิเศษต่างๆถูกส่งเข้ามาปฏิบัติการโดยร่วมกับทหารพรานจู่โจม จัดตั้งหน่วยขนาดเล็ก เข้าแทรกซึมสู่แนวหลังข้าศึก มุ่งหน้าสู่ป่าลึกฝั่งกัมพูชาและสปป.ลาว อีกครั้งเพื่อค้นหาฐานยิงสนับสนุนของข้าศึก 
หน่วยรบพิเศษตรวจพบฐานยิงสนับสนุนของข้าศึก ซึ่งซ่อนพรางอยู่ในป่าลึกฝั่งกัมพูชาและสปป.ลาว รบพิเศษเข้าเกาะติดฐานข้าศึกและแจ้งพิกัดให้หน่วยเหนือทราบ ระหว่างนั้น ทางฝ่ายยุทธการปรับแผนการรบ จากก่อนเคยใช้วิธีทุ่มกำลังเข้าตี เปลี่ยนเป็นการรบแบบป้อมค่าย เกาะติดฐานข้าศึก ใช้หน่วยทหารพรานจู่โจมซึ่งชำนาญพื้นที่กว่าทหารหลัก ร่วมกับ หน่วยทหารช่าง ขุดดินรุกเข้าเนินที่หมายในหลายทิศทาง รุกเข้าเกาะติดฐานชนิดที่มองเห็นหน้ากันได้เลยทีเดียวยิงปะทะเมื่อจำเป็น ได้แทรกซึมไปยังพื้นที่ส่วนหลังของฐานที่มั่นเวียดนามสามารถทำลายเส้นทางส่งกำลังและตรวจพบฐานปืนใหญ่เวียดนามที่อยู่ในลาว จึงเกาะติดชี้เป้าหมายให้ชุดตรวจการณ์ทางอากาศจากเครื่องบิน แอล ๑๙ ขอยิงทำลายฐานปืนใหญ่และคลังกระสุน  เครื่องบินขับไล่ เอฟ-๕อี สองลำของฝูงบิน ๔๐๓ กองบิน ๔ ตาคลีก็แผดเสียงสนั่นดำดิ่งเข้าโจมตีเป้าหมายที่มั่นข้าศึก ด้วยปืนใหญ่อากาศ     ด้านบนที่หมายปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานของเวียดนาม ยิงสกัดเครื่องบินรบของไทยอย่างหนัก เครื่องหมายเลข ๑ ของ น.ต.สุรศักดิ์ บุญเปรมปรี ถูกจรวด แซม-๗ ของเวียดนามเครื่องยนต์ขวาระเบิด ต้องถอนตัวจากภารกิจ กลับไปยังกองบิน ๒๑ อุบลราชธานี  ส่วนเครื่องหมายเลข๒ ของนาวาอากาศตรี เจริญ บำรุงบุญ ก็ดำลงเข้าใช้อาวุธต่อเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถูกทำลายจนราบเสียงระเบิดจากคลังกระสุนและคลังอาวุธเวียดนามดังกึกก้อง    กรมทหารราบที่๒๓สามารยึดเนิน ๕๐๐ได้ สถานการณ์เหมือนการรบครั้งก่อน รุ่งขึ้นกำลังพัน.ร.๔ของพ.อ.เรวัต  บุญทับก็ต้องพบกับการยิงพร้อมกันณ ที่หมายของปืนใหญ่เวียดนาม อย่างเม่นยำ พร้อมการเข้าตีอีกหลายระลอกอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้เราคาดการณ์ล่วงหน้าจึงใช้หลุมบังเกอร์ต่างๆของเวียดนามในการป้องกันตนเองและยืนหยัดต่อสู้จนถึงวันที่ ๔ มิถุนายน การสู้รบตั้งแต่วันที่๑ – ๔ สามวันเราสูญเสียกำลังพลจากการสู้รบแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเสียชีวิต ๑๓ นาย บาดเจ็บ ๙๐นายจากการเข้าเคลียร์ ฐานแห่งนี้ พบศพทหารเวียดนาม ๔๕ ศพและจับเชลยได้ ๑๒นาย ยึด     อาวุธ ยุทโธปกรณ์จำนวนมาก รวมทั้งจรวดแซมแบบยิงประทับบ่า เราสามารถสถาปนาที่มั่นตั้งรับได้สำเร็จ การปะทะของทหารไทย ทหารเขมรแดงในพื้นที่กับเวียดนามดำเนินต่อไปแต่ไม่หนักส่วนใหญ่เวียดนามจะสูญเสียกำลังพลจากกองโจรเขมรแดงจนถึงเวลาประมาณ๑๔๕๕ของ๒๗มิ.ย.กำลังเวียดนามต้องถอนตัวออกจากที่หมายเนินต่างๆจนหมด เนื่องจากการสูญเสีย และการส่งกำลังบำรุงในเขตกัมพูชา ที่ถูกรบกวนจาก เขมรแดง และชุดรบพิเศษ ส่วนฐานต่างๆถูกกำลังเขมรแดงได้เข้าตีฐานอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนการยิงปืนใหญ่จากฝั่งไทย ทำให้เวียดนามถูกตีขนาบ จึงต้องถอนกำลังกลับเข้าเขตกัมพูชาห่างจากแนวเขตแดนเพื่อให้พ้นอิทธิพลกองทัพเขมรแดงและระยะยิงปืนใหญ่ของกองทัพไทยการรบที่ช่องบกจึงยุติลง
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ในปีการปฏิบัติการกวาดล้างกองกำลังทหารเวียดนามที่ช่องบก ตั้งแต่ ม.ค.๒๕๒๘-ธ.ค.๒๕๓๐ ทหารไทยสูญเสีย กำลังพล ๑๐๙ นาย บาดเจ็บ ๖๔๔ นาย ยึดอาวุธจากฝ่ายเวียดนามได้จำนวนมาก
   ผมอัพเดทBlogของเพื่อนบ้านที่เขาเคยไปร่วมรบ ที่นั้นมา รายละเอียดจะมีเพิ่มเติม อ่านดูครับเพื่อการศึกษา
http://www.nco125.com/webboard-view/1306261687.html
ซีรีย์นี้เป็นเรื่องราวของ"สมรภูมิช่องบก" ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน  จ.อุบลราชธานี  ซึ่งเป็นรอยต่อ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย, ลาว และกัมพูชา  เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างปี 2529 - 2530 ครับ........... 

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 17:46:54

ในปี 2529 ทวน.(ทหารเวียดนาม) ได้รุกล้ำอธิปไตยของไทยโดยการเข้ามาวางกำลังเป็นฐานปฏิบัติการบนเนินต่างๆ เช่น เนิน 500, 408, 382, 436 และ 689 ซึ่งลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 2 - 3 กิโลเมตร...โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นการส่งกำลังบำรุงและการแทรกซึมของเขมรสามฝ่ายจากฝั่งไทย..........



ที่หมายต่างๆ ดังกล่าวครับ................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 17:55:36

กกล.สุรนารี เปิดยุทธการ D- 9 เพื่อขับไล่ผู้รุกรานในเดือน ต.ค.29 ในช่วงแรกกำลังฝ่ายเราสามารถเข้าถึงที่หมายต่างๆ แต่ไม่สามารถสถาปนาที่มั่นได้เป็นผลสำเร็จ...เนื่องจาก ทวน.ใช้อาวุธยิงสนับสนุนเช่น ป., ค. และ ปรส.ระดมยิงอย่างหนัก...จึงต้องถอนตัวออกมาจากทุกเนิน...พร้อมกับคำท้าทายที่เขียนเป็นเอกสาร (ภาษาไทย) ในศพของกำลังพลว่า "ให้เอากรมทหารราบที่ 23 มาเจอกัน"....................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:05:35

ต่อมา ทภ.2 ตัดสินใจเข้าควบคุมการยุทธเอง.........โดยสั่งใช้กำลัง ร. 23 ทั้ง 4 กองพัน ตามคำท้าทาย และเมื่อ 1 มิ.ย.30 การเข้าตีเนิน 500 แบบลักลอบ (ไม่มีการยิงเตรียมของ ป.สนาม) จึงเกิดขึ้นโดยให้ ร้อย.ร. 2341 เป็นหน่วยเข้าตีหลัก และ ร้อย.ร.2342 เป็นกองหนุน (ทั้ง 2 กองร้อยจัดจาก ร.23 พัน. 4 บุรีรัมย์)............ผลปรากฎว่าเราสามารถยึดที่หมายได้เป็นผลสำเร็จ.....ในภาพ ผบ.ฉก.ร.23 (พ.อ.เรวัต  บุญทับ) ขึ้นไปให้กำลังใจกำลังพลหลังยึดที่หมายได้.......... 

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:17:39

ขอบคุณเพื่อนเวศน์มาก เนื้อหาสั้น กระชับ เป็นตอน ๆ น่าติดตาม ได้ความรู้ดี
บุญยิ่ง เพ่งจินดา 125.27.20.143 : 0875807500 2013-06-26 18:21:16

แต่สถานการณ์พลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน.........เราพบหลักฐานในฐานปฏิบัติการว่า ทวน.ได้เตรียมการ"ยิงหาหลักฐาน"ต่อฐานฯ ดังกล่าวไว้แล้ว.....และเป็นไปดังคาด.....ทวน.ทำการเข้าตีโต้ตอบต่อฝ่ายเราโดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนระดมยิงอย่างหนักหน่วงและแม่นยำพร้อมกับกำลังทหารราบเข้าตีเป็นระลอกอย่างต่อเนื่องในห้วง 2 - 4 มิ.ย.30.....ซึ่งฝ่ายเราก็ได้ต้านทานอย่างสุดฤทธิ์..ภาพมุมซ้ายด้านบนเป็นภาพที่ผู้การขึ้นไปให้กำลังใจก่อนการตีโต้ตอบ...คนยืนด้านขวาคือ ผบ.ร้อย.ร.2341 ส่วนเพื่อน 125 ก็อยู่ในแถวที่ยืนในคูเหรดนั่นแหล่ะครับ.................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:28:20

เราสูญเสียกำลังพลตลอดการสู้รบในห้วง 4 วัน จำนวน 13 นาย และบาดเจ็บ 90 นาย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการสูญเสียที่เกือบถึงขั้น "ละลาย"...แต่เราก็สร้างความพินาศให้กับผู้รุกรานในอัตราที่ใกล้เคียงกันหรือมากกว่า........ส่วนผู้การปัจจุบันท่านเกษียณอายุไปหลายปีแล้วแต่ยังคงรับใช้เบื้องพระยุคลบาทในตำแหน่งรองสมุหราชองครักษ์และเปลี่ยนชื่อเป็น "ณพล" รวมทั้งยังคงดูแลปัญหา จชต.อยู่........และนี่คือหลักฐานแห่งความไว้วางพระราชหฤทัย................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:38:17

ปัจจุบันการสู้รบไม่มีแล้ว...........แต่ยังคงหลงเหลือทุ่นระเบิดอยู่บ้าง..........ช่องบกมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "สามเหลี่ยมมรกต" มีทิวทัศน์สวยงาม....เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของอุบลราชธานีครับ............

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:42:36

ช่องบก 2

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:43:31

ช่องบก 3

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:45:30

ช่องบก 4

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:46:16

ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ (ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่กำลังพลที่เสียชีวิต) อยู่ห่างจากปากทางช่องบกประมาณ 4 กิโลเมตร...รถยนต์เข้าถึงได้ครับ...............

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:48:32

ปัจจุบันตรงปากช่องบกสร้างเป็นศาลาเพื่อประดิษฐาน "พระพุทธรักษานักรบกล้าอิสาน" และใช้เป็นที่พบปะพัฒนาสัมพันธ์ของทหารไทย, เขมร และลาว  ซึ่งสามารถเดินเท้ามาพบกันได้ครับ.......ส่วนนักรบสกุลเหงียนกลับบ้านไปนานแล้ว..........

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-26 18:52:23

ในเดือน ส.ค. และ ก.ย.ของทุกปีจะมีปรากฎการณ์กุ้งเดินขบวนที่แก่งห้วยโดมซึ่งอยู่ในพื้นที่ช่องบกครับ................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853
ผมก็กำลังพล ร้อย.ร.2341 (ร้อย อาสา) แล้วผมมัวไปแอบ มุดอยู่หลุมใหนเนี่ยถึงไม่เห็นหน้าเลย..หรือว่ามัวแต่เมาอยู่แก่งลำดวน
วีรพันธ์ ชาญชัยศรี 101.51.100.163 : 044275194 2013-06-26 19:16:01

 พี่นิพนธ์ฯได้ ร้อยเอก  ก่อนใครก็ท่ีช่องบกนี่แหล่ะ..ร้อย ร2341  เลยต้องเปลี่ยนอาชีพมาเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนร่ำรวยอื้อซ่า...คาดว่าจะบริจาคเพื่อจัดงานกินเลี้ยงท่ี ทภ.2 เป็นเจ้าภาพ หลายเงินอยู่ประธาน ทภ2 ประกบไว้ดีๆแล้วกันพูดถึงใจแล้วจ่ายไม่อั้น  บางครั้งยอมจ่ายจนเหลือแต่ กกน.ตัวเดียวก็ยังมีเสียหน้าไม่ว่าแต่ไม่ขอเสียชื่อคติประจำใจของพี่ใหญ่..นืพนธ์  ป้องมิตรฯ
วีรพันธ์ ชาญชัยศรี 101.51.100.163 : 044275194 2013-06-26 19:28:03

 โอ..โฮ..พี่เวศน์ ช่างสรรหา จริงๆ เหมือนหนังสงครามเลย มีต่อ ภาค 2 หรือเปล่า (โปรดติดตามตอนต่อไป เร็วๆ นี้)
จ.ส.อ.เพชร อ้นเถื่อน ตรีเพชร 789 58.9.8.44 : 0818064016 2013-06-26 19:35:21

เราร้อยร.4722 รอดมาได้ เพราะกองหนุนหนึ่งกองร้อยเพิ่มเติมกำลังนี้คร้าบบบบคุณเพื่อนเวศน์

จ.ส.อ.สงวน มูลหล้า 223.206.208.132 : 0871852773 2013-06-26 22:02:55

เข้าตีเลย
พ.ท.เสนีย์ คงทองเอียด 118.173.17.114 : 0 8 4 8 4 5 1 5 6 9 2013-06-27 08:26:24

พี่พันธ์......จำ ส.อ.หนุ่มน้อยหน้ามนแห่ง ร้อย.ร.2341 คนนี้ได้รึป่าว.........เรื่องรูปน่ะอย่าว่าแต่พี่เลย.....ไอ้คนโพสต์เองก็หาไม่มี.........โดยเฉพาะตอนที่"ไอ้แกว" กำลังจะเข้าชาร์จพวกเราบนเนิน 500...ถ้ามีโทรศัพท์แบบสมัยนี้ก็อาจจะมีการถ่ายทอดสดบ้าง........ฝากความคิดถึงพี่นิพนธ์กระดูกเหล็กด้วย..คนอะไรขนาด "กบกระโดด"ยังกินแกไม่ลงเลย................

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853 2013-06-27 13:37:00

มีเรื่องราวมาเล่าให้คนรุ่นหลังฟัง จากผู้มีประสบการณ์ตรง
เยี่ยมมากเพื่อนเวศน์
ประจวบ แสงมา 125.26.44.59 : 0898061452 2013-06-27 17:32:50

125 อุบลราชธานี ขอแจมด้วยภาพต่อไปนี้

จตุชัย ศิริมูล 223.206.193.47 : 0892807659 2013-06-27 19:22:38

ที่อยู่ของข้าศึก ปืนทำลายเขาไม่ได้

จตุชัย ศิริมูล 223.206.193.47 : 0892807659 2013-06-27 19:24:05

(ขออภัยปืนใหญ่)  วัตถุระเบิดที่เขาขนกลับไม่ได้ เมื่อเขา (ข้าศึก) ถอนตัวออกจากพื้นที่เนิน 500 ขณะนั้น ส.อ.จตุชัย   เป็น ผบ.หมู่ ค.81  สนับสนุนตลอดตราบเท่าทุกวันนี้ 

จตุชัย ศิริมูล 223.206.193.47 : 0892807659 2013-06-27 19:29:12

อีกภาพครับ

จตุชัย ศิริมูล 223.206.193.47 : 0892807659 2013-06-27 19:30:03

เรา จ.ส.อ.สนาน  สังสกฤษณ์ ก็ไปเด้อ อยู่ ร้อย.ร 2343 อยู่กับ จ.ส.อ.จักรพงษ์   ถาวรกาย ( ไอ้เจี๊ยบ ร้อย.4 พัน.3 ) ที่เนิน 472  ถอนตัวจากเนิน โนเนม พร้อมศพเพื่อนทหารหาญอีก 8 ศพ   
จ.ส.อ.สนาน สังสกฤษณ์ 171.4.221.42 : 0892821561 2013-06-27 20:09:56

 สุดยอดการนำเสนอ คงมีตอนต่อไปนะ หลาย ๆ คนเฝ้าติดตามอยู่เพื่อนเวศน์
ชัช แปลงสาร 113.53.113.115 : 084 7056 190 2013-06-27 21:21:14

ขอบคุณเพื่อนจตุชัยมาก....เห็นรูปแล้วน้ำตาจะไหล.....คิดถึงผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน.....โดยเฉพาะผู้ที่ต้องจากไป............

ประเวศน์ เขมะปัญญา 183.89.156.163 : 0816600853

4 ความคิดเห็น:

  1. วีกรรมทหารไทยสุดยอดมาก ทั้งฝืมือและความกล้าหาญ

    ตอบลบ
  2. อ่านข้อเท็จจริงแล้วตื่นเต้นมากคับ พยายามหาข้อมูลในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกแล้วแต่ไม่เจอ ซึ่งตัวผมเองติดตามช่องบกมาตลอดตั้งแต่ 7-8 ขวบ เพราะได้ยินเสียง ฮ.ลงทุกวันในค่าย สรรพสิทธิประสงค์ อ.วาริน จ.อุบล แล้ววัดหน้าค่ายก้อเผาศพทุกวัน เลือดผมสูบฉีดอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้เลยเดินตามความฝันมาเป็นทหาร สังกัดนาวิกโยธิน ก้อเพราะเหตุการณ์ช่องบกนี่แหล่ะคับ ขอขอบคณทหารราบทัพภาค 2 ทุกนายที่สละเลือดเนื้อเพื่อชาติคับ น.ท.ชิดพงษ์ พุ่มแก้ว 087-1284630

    ตอบลบ
  3. มีท่านใดจำเพลงนี้ได้บ้างครับ https://www.youtube.com/watch?v=CCmLhFtUQpI

    ตอบลบ
  4. คาราวะนักรบราคาถูกพรานพิฆาต2307ทุกนาย

    ตอบลบ