ช่องบก สมรภูมิพิทักษ์แผ่นดินไทย
ตอนที่
๒
เหตุการณ์รบที่สามเหลี่ยมมรกต
ช่องบก อ.น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีปะทุขึ้น เนื่องมาจากชาวกัมพูชาและกองทหารเขมรแดง
และเขมรเสรีได้หลบหนีเข้ามารวมกลุ่มเป็นกองกำลังต่อต้านเฮงสัมริน โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มกองกำลังรักชาติ ตลอดตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณช่องบก กลุ่มเขมรแดงหรือเขมรเขียวสัมพันธ์ ได้มารวมกลุ่มตั้งเป็นกองบัญชาการในการต่อต้านกำลังต่างชาติ และใช้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนที่อพยพติดตามเข้ามา รวมประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน ได้ทำการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งในเขตไทยและกัมพูชา เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการส่งกำลังเข้าไปต่อต้านและทำลายกำลังทหารเวียดนามและรัฐบาลเฮงสัมรินที่ยึดครองกัมพูชา นอกจากนั้นบริเวณช่องบกยังเป็นคลังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่มกองกำลังรักชาติ(กรช.) และเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการที่สำคัญในการส่งกองกำลังเข้าปฏิบัติการรบแบบกองโจรต่อทหารเวียดนามในพื้นที่กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริเวณช่องบกจึงเป็นเป้าหมายสำคัญต่อการโจมตีของกองทัพเวียดนามที่ต้องการควบคุมชายแดนไทยในด้านนี้ไว้ให้ได้อย่างเด็ดขาด
เพื่อตัดการสนับสนุนและส่งกำลังบำรุงต่อเขมรแดง ซึ่งครอบครองบริเวณนั้นอยู่และเป็นการเตรียมการรุกใหญ่เมื่อถึงเวลาเพื่อยึดภาคอิสานของไทยด้วยกำลังขนาดใหญ่
ไม่ใช่ชายแดนด้านนี้ด้านเดียวยังมีพื้นที่อื่นๆที่เป็นเขตเคลื่อนไหวของเขมรแดงและเป็นที่ตั้งคลังอาวุธและเสบียงอาหารเพื่อสนับสนันกองกำลังนักรบเขมรที่ต่อต้านเวียดนามเช่นที่บ้านผักกาดอำเภอโป่งน้ำร้อนกับกรุงไพรินเมืองหลวงของเขมรแดงจนเกิดเหตุการณ์รบที่บ้านหนองกกเนินดินแดงตำบลเทพนิมิตร
อำเภอโป่งน้ำร้อนของทหารนาวิกโยธินและบ้านสะพานหินอำเภอเมืองตราดการรบที่ดุเดือดของนาวิโยธินในยุทธการชำรากฐานปฏิบัติการต่อต้านเวียดนามที่ช่องบกเคลื่อนไหวทางทหารตั้งแต่เขมรแดงพ่ายแพ้ต่อกองทัพเวียดนามเฮงสัมรินจนถึง
ปี๒๕๒๘ กองพลทหารราบที่๗๓๓ของเวียดนามและ กองพลทหารราบเขมรเฮงสัมริน ก็ ส่งกองกำลังเข้ามาโจมตีจนเขมรแตกถอยร่นลึกเข้ามาในเขตแดนไทยกำลังของเวียดนามรุกไล่เข้ามาในเขตแดนไทยบริเวณช่องบกลึกประมาณ
๕ กม.เข้า ยึดเนินสำคัญ ๆได้แก่ เนิน ๕๐๐,๔๐๘,๓๘๒ และ ๓๙๖ ของเทือก เขาพนมดงรักที่กั้นเขตแดนไทยกัมพูชา
ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าทึบซ่อนพราง ยากแก่การตรวจการณ์
ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ กองทัพเวียดนามได้ตั้งฐานที่มั่น อย่างถาวรก่อสร้าง
บังเกอร์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีระบบเครื่องปั่นไฟ ตั้งปืนต่อสู้อากาศยาน
และจรวดต่อสู้อากาศยานเพื่อป้องกันการโจมตีของเครื่องบินรบฝ่ายไทย อีกทั้งรายล้อมด้วยฐานปืนใหญ่ขนาด
๑๒๒ม.ม.๑๐๕ ม.ม.และ๑๓๐ ม.ม.เอาไว้จำนวนมากซึ่งฐานปืนใหญ่เหล่านี้ให้การยิงสนับสนุนกองทัพเวียดนามได้ครอบคลุมทั้งในลาวและกัมพูชา
และเวียดนามได้ดัดแปลงปราสาทพระวิหารบางส่วนเป็นฐานส่งกำลังบำรุงในเขตสูรบนี้มีทั้งคลังเสบียงและคลังอาวุธและกระสุนปืนใหญ่ ในระหว่างนั้นกองกำลังเขมรแดงได้เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของเวียดนามอยู่เป็นระยะมีการใช้อาวุธหนักยิงถล่มตอบโต้กันยุทธวิธีของเขมรแดงใช้วิธีรบแบบกองโจรมีปืนไร้แรงสะท้อนและ
เครื่องยิงลูกระเบิดยิงสนับสนุนส่วนกองกำลังเวียดนามใช้การรบตามยุทธวิธีตั้งรับแบบเหนียวแน่นโดยดัดแปลงที่มั่นเป็นสนามเพลาะมีคูเชื่อมต่อตลอดแนวตั้งรับมีบังเกอร์แข็งแรงแบบปิดสนับสนุนด้วยรถถังปืนใหญ่เต็มอัตรา กองรักษาด่านรบของกองพันทหารราบเฉพาะกิจ
จึงรายงานให้กองกำลังสุรนารีทราบถึงการรุกล้ำอธิปไตย
เนื่องจากเวียดนามยึดที่หมายทางทหารที่มีภูมิประเทศสูงข่ม
ซึ่งแนวโน้มจะมีการใช้เป็นที่ตั้งถาวรสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารลึกเข้ามาในประเทศมากขึ้น
จึงจำเป็นที่ทางกองทัพไทยต้องเร่งผลักดันฐานทัพของเวียดนามให้พ้นแผ่นดินไทยให้ได้ในเร็ววัน
ปลายปีพ.ศ. ๒๕๒๙ใน เดือนตุลาคม กองกำลังสุรนารีในฐานะกองกำลังป้องกันประเทศที่รับผิดชอบพื้นที่
ได้สั่งให้กรมทหารราบเฉพาะกิจที่๑๖(กรมทหารราบที่ ๑๖ ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร)
ผลักดันกองกำลังเวียดนามเฮงสัมรินที่รุกล้ำอธิปไตยของไทย โดยใช้กองพันทหารราบเฉพาะกิจที่๑๖๒
กองกำลังทหารพราน ร้อยลาดตระเวนระยะไกลและกองพันทหารปืนใหญ่เป็นส่วนยิงสนับสนุนการผลักดันครั้งนี้
ปฏิบัติการเข้าตีเริ่มขึ้นในระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ.๒๕๓๐ กองกำลังเวียดนามได้ดัดแปลงที่มั่นแข็งแรงบริเวณเนิน๓๙๖
เนิน ๓๘๒ เนิน ๔๐๘ และเนิน ๕๐๐ ในแต่ละที่มั่นสามารถเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ประกอบกับภูมิประเทศเป็นเขาสูงชันป่ารกทึบ เมื่อครั้งเขมรแดงถอยร่นออกจากพื้นที่ที่ตั้งฐานปฏิบัติการซึ่งก็คือเนินต่างๆเหล่านี้
มีการวางกับระเบิดที่ผลิตจากจีนป้องกันกำลังทหารเวียดนามเข้าโจมตี ครั้น เวียดนามเข้าตีขับไล่เขมรแดงไปได้ก็ได้วางกับระเบิดซึ่งเป็นชนิดใหม่
มีขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้การฝังแบบปกติ แต่เป็นลูกเล็ก ๆ
ซึ่งทางเวียดนามจะส่งกองกำลังแทรกซึมเข้ามาเป็นชุดเล็ก ๆ นำระเบิดมาวางตามแนวป่า
และพงหญ้า เมื่อเสร็จก็ถอนกำลังออกไปอย่างรวดเร็ว ระบิดแบบนี้ไม่ทำให้ถึงตาย
แต่ทำให้ทหารที่เหยียบขาขาดไปเกือบถึงหัวเข่า ซึ่งมีทหารจำนวนมากที่บาดเจ็บจากกับระเบิดชนิดนี้
ฝ่ายเราต้องรุกจากที่ต่ำไปยังที่สูง ประสบความยากลำบากในการเคลื่อนที่
และการดำเนินกลยุทธ์ เข้าสู่ที่หมายและต้องเผชิญกับการระดมยิงด้วยอาวุธหนักโดยเฉพาะปืนใหญ่๑๒๒
ม.ม. ๑๐๕ม.ม.และ๑๓๐ ม.ม.ที่มีฐานยิงทั้งจากด้านประเทศลาวและกัมพูชาโดยทำการยิงสนับสนุนการตั้งรับเป็นชุดๆ
ครั้งละ ๕๐นัด ถึง ๒๐๐นัดโดยที่การยิงต่อต้านปืนใหญ่ของฝ่ายเราที่ต้องยิงทำลายฐานปืนใหญ่เวียดนามไม่สามารถยิงได้เนื่องจากอยู่ไกลกว่าระยะยิง ขณะที่ปืนใหญ่๑๐๕ม.ม.ของฝ่ายเราที่ใช้สนับสนุนกองพันเข้าตีใช้วิธีลากยิงหากยิงแล้วตั้งอยู่กับที่ เรดาห์ค้นหาเป้าหมายของเวียดนามจับทิศทางได้จะโดนยิงสวนกลับภายในไม่เกิน๕นาที
ส่วนบนภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ป่ารกทึบสลับเนินเขาเต็มไปด้วยกับระเบิด
ทำให้กำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายคน ด้านเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังที่ตั้งในที่สูงข่มสามารถตรวจการการรุกคืบหน้าของฝ่ายไทยได้อย่างชัดเจน
ก็ระดมยิงจนทหารไทยไม่สามารถรุกคืบหน้าไปได้ สามารถเข้าประชิดที่หมาย เนิน ๓๘๒ในระยะ
๓๐๐ เมตรส่วนด้านเนิน ๔๐๘ สามารถดำเนินกลยุทธ์ จนถึงระยะ ๑๐๐ เมตร
เนื่องจากลักษณะที่หมายเป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง และมีการวางทุ่นระเบิดกับระเบิดอย่างหนาแน่น ได้มีการกู้กับระเบิดได้ถึง ๓,๐๐๐ลูก ระหว่างการเข้าตีพร้อมทั้งยังถูกอาวุธยิงสนับสนุนยิงตัดรอนตลอดเวลามีการสูญเสียกำลังพล การส่งข่าวของวิทยุสื่อสารถูกข้าศึกจับคลื่นได้มีการลวงเลียนและส่งคลื่นรบกวนไม่สามารถใช้วิทยุสื่อสารได้ดี น้ำใช้ในภูมิประเทศก็ไม่สามารถใช้ได้ด้วยพบการโปรยสารพิษทุกลำธาร จากการสูญเสีย ทำให้ฝ่ายเราต้องถอนกำลังมาปรับกำลังเพื่อจะทำการเข้าตีใหม่ ครั้งที่๒แต่สถานการณ์ก็เป็นแบบเดิม จนต้องถอยลงมาอีกครั้ง
ในวันที่ ๒๘ ก.พ.๒๕๓๐จึงได้รับการเพิ่มเติมกำลังจาก กองพันทหารราบที่ ๓
กรมทหารราบที่ ๖ ในระหว่างการรุกคืบหน้ามีการปะทะอย่างหนักกับกองทัพเวียดนามจนถึงวันที่
๒๕ มี.ค.๒๕๓๐กองพันทหารราบที่๓กรมทหารราบที่๖ เข้าตีต่อที่หมายเนิน ๓๘๒ คือ ทิศทางด้านหน้า ทางด้านปีกซ้ายและปีกขวา ฝ่ายเราถูกต้านทานอย่างหนัก ทั้งอาวุธวิถีตรงและอาวุธวิถีโค้ง กำลังทางด้านซ้ายเข้าตะลุมบอนกับข้าศึก โดยการรบประชิดด้วยการยิงปืนเล็กและใช้เครื่องฉีดไฟ ข้าศึกจึงได้ถอนตัวออกจากที่มั่นไปยังหลังเนินวางกำลังในแนวตั้งรับอีกแนว และได้ทำการยิงต่อต้านฝ่ายเราอย่างรุนแรงและหนาแน่น ทำให้ฝ่ายเราประสบความสูญเสียจำนวนมาก จึงให้ฝ่ายเราวางกำลังดัดแปลงที่มั่นและควบคุมที่หมายเอาไว้ ผลการปฏิบัติครั้งนี้ทำให้ฝ่ายเราสามารถยึดที่หมายได้บางส่วน ทางด้านที่หมายเนิน ๔๐๘ กองพันทหารราบที่๒กรมทหารราบที่๑๖ ใช้กำลัง ๘ ชุดปฏิบัติการจากกองร้อยทหารราบ และ ๔ ชุดปฏิบัติการจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล แทรกซึมโอบล้อมทางด้านขวา(ทิศตะวันตก) เนิน ๔๐๘ แล้วรวมกำลังเข้าดำเนินกลยุทธ์ต่อที่หมาย บก.ร้อย ๙ ของข้าศึกในวันที่ ๒๕ มีนาคม ชุดปฏิบัติการขนาดเล็กทั้ง ๑๒ ชุด ได้ดำเนินกลยุทธ์เข้าสู่ที่หมายอย่างจู่โจม สามารถสังหารข้าศึกได้ในบังเกอร์ ๓ ศพ และยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้จำนวนมากในขณะเดียวกันฝ่ายเราได้วางกำลังซุ่มโจมตีเส้นทางระหว่างปากช่องบกกับที่หมาย บก.ร้อย.๙ สามารถสังหารข้าศึกได้อีก ๑๒ ศพ หลังจากฝ่ายเรายึดที่หมายบก.ร้อย.๙ ได้ ฝ่ายเราได้ถูกระดมยิงจากอาวุธหนักของฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักทำให้ไม่สามารถควบคุมและต้านทานไว้ได้ ประกอบกับด้านหน้าเนิน ๔๐๘ ได้ใช้ กำลังชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก ของ ๓ กองร้อยทหารพรานจู่โจมดำเนินกลยุทธ์ต่อเข้าตีที่หมายเนิน ๔๐๘ได้พยายามเข้าตีถึง ๓ ครั้ง แต่ก็ถูกต้านทานอย่างหนัก ฝ่ายเราสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้ที่หมาย เหลือระยะประมาณ ๘๐ – ๑๐๐ เมตร จะถูกฝ่ายตรงข้ามระดมยิงด้วยอาวุธทุกชนิดด้วยความแม่นยำและยิงอย่างต่อเนื่องทำให้ฝ่ายเราได้รับการสูญเสียเป็นจำนวนมาก จึงต้องถอนตัวออกจากการรบ เพื่อทำการส่งกลับผู้บาดเจ็บต่อไปในการกลับไปกู้ศพทหารหาญที่สละชีวิตบนผืนแผ่นดินไทยแต่เป็นที่มั่นของข้าศึก
กลับได้พบกับข้อความภาษาไทยอย่างเย้ยหยันว่าให้เอากรมทหารราบที่ ๒๓ มาเจอกัน(สาเหตุที่พบข้อความนี้น่าจะมาจากเหตุการณ์ที่พล.ร.๗ กรม.ร.๗๓๓ของเวียดนาม กองพลนี้ที่กำลังรุกล้ำชายแดนไทยที่ช่องบก ขณะนั้นได้รุกล้ำอธิปไตยด้านอำเภอสังขะและอำเภอบัวเชดจังหวัดสุรินทร์พัน.ร.ฉก.๒๓๑
ของกรมทหารราบที่๒๓ เข้าผลักดันสามารถสังหารทหารเวียดนาม
และยึดยุโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมากจึงสร้างความโกรธแค้นต้องการแก้แค้นในการรบครั้งนี้ที่เวียดนามเตรียมการณ์เป็นอย่างดี การต่อสู้ยังไม่ยุติตราบใดที่กองทัพต่างชาติยังยึดอยู่บนแผ่นดินไทย
๑ เม.ย.๒๕๓๐ กองทัพภาคที่ ๒ จัดตั้ง ทก.ยุทธวิธี
บริเวณริมถนนทางไปอำเภอน้ำยืนห่างพื้นที่การรบ ๓๐ ก.ม. เพื่อควบคุม
และอำนวยการยุทธ์ในพื้นที่โดยพล.ท.อิสระพงศ์
หนุนภักดีแม่ทัพภาคที่๒ สั่งการให้เข้าตีเนิน ๔๐๘ เนิน๓๘๒
เนิน๕๐๐เพื่อยึดที่หมายผลักดันข้าศึก ใน ๓ ทิศทางโดยทิศทางหลักใช้กำลังผสมกำลังจากกรมทหารพรานที่ ๒๖ และกรมทหารพรานที่ ๒๑ เข้าตีทางทิศตะวันตกของเนิน ๕๐๐ และใช้กำลังอีก ๓ กองร้อยทหารราบ เข้าตีทิศทางรองทางด้านทิศตะวันออก และทิศเหนือของที่หมายสนับสนุนด้วย ปืนใหญ่ และกำลังทางอากาศ ก่อนกำหนดเข้าตีที่หมายฝ่ายเราได้ส่งชุดลาดตระเวนหาข่าวเป็นชุดจากร้อยลาดตระเวนระยะไกลโดยมีทหารเขมรเสรีที่เคยยึดครองพื้นที่บริเวณนี้มาก่อนเป็นผู้นำทางเพื่อหาข่าวบริเวณที่หมายเพื่อทำแผนเข้าตีให้สมบูรณ์
ชุดลว.เหล่านี้ต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากโขอยู่ด้วยกับระเบิดและปืนใหญ่ที่ระดมยิงเมื่อกับระเบิด
เกิดระเบิดขึ้น หลังจากเตรียมการเข้าตีจนพร้อมแล้วการยิงเตรียมด้วยปืนใหญ่
๖ กองร้อยใช้กระสุนเป็นหมื่นนัดตั้งแต่๐๕๐๐ ก็เริ่มต้นขึ้นใช้เวลา๒๐นาที
หลังยิงเตรียมเสร็จสิ้นลง เช้าตรู่ของวันที่
๑๔ เม.ย.๒๕๓๐ กำลังฝ่ายไทยทำการเข้าตีที่หมาย เนิน ๔๐๘,๕๐๐,๓๘๒ โดยพร้อมกันแต่การรุกเป็นไปอย่างช้าๆเพราะต้องคอยหยุดหน่วยกู้กับระเบิดไปตลอดทางกว่าจะผ่านได้๑๐๐เมตรใช้เวลาเป็นชั่วโมงและเป็นทางขึ้นเนินบีบไปหาบังเกอร์ตรวจการณ์ด้านหน้าที่ข้าศึกคอยต้อนรับด้วยปืนกลและขอยิงด้วยปืนใหญ่
ในขั้นต้นฝ่ายไทยสามารถเข้าถึงเนิน๔๐๘ และเนิน๓๘๒ โดยได้รับการต้านทานเป็นระยะๆ จากกำลังส่วนระวังป้องกันของเวียดนามส่วนกำลังหลักของเวียดนามได้ถอนตัวไปก่อนแล้วเมื่อเข้าถึงที่หมายได้ขณะสถาปนาที่มั่นตั้งรับปืนใหญ่ของฝ่ายเวียดนามก็ระดมยิงจนไม่สามารถดัดแปลงที่มั่นตั้งรับได้ไม่นานกำลังเวียดนามระลอกแรกก็
ได้ทำการตีโต้ตอบ โดยมี ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และ ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังสนับสนุนอย่างใกล้ชิดเวียดนาม
ใช้กำลังเข้าตีโต้ตอบ เป็นละลอก และต่อเนื่อง
ฝ่ายไทยซึ่งมีเวลาจำกัดในการดัดแปลงที่มั่น ขาดความหนุนเนื่อง
ในการส่งกำลัง เส้นทางยากลำบาก ไม่สามารถต้านทานได้ วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๐ จึงทำการถอนกำลังออกจากเนิน๔๐๘และเนิน๓๘๒กลับมาที่รวมพลบริเวณถ้ำบอน ห่างจากที่หมายทางทิศเหนือ ประมาณ ๔ กิโลเมตร เพื่อทำการปรับกำลังและลำเลียงผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่
ทั้งทหารราบ และทหารพรานเป็นร้อยคนและศพเพื่อนทหารอีก๔๕ นายลงไปแนวหลังที่ทก.ยุทธวิธี ส่วนด้านเนิน๕๐๐ก็เช่นเดียวกัน
กรมทหารพรานที่๒๖สามารถเจาะเส้นทางกู้กับระเบิดจนเข้าตีถึงหน้าที่มั่นแต่ต้องพบกับห่ากระสุนปืนใหญ่ที่ปืนใหญ่ฝ่ายเราไม่สามารถต่อต้านได้สำเร็จมีทหารพรานเสียชีวิตที่
เนิน๕๐๐ไม่สามารถกู้ศพมาได้ ๕ นาย การ ประเมินกำลังของข้าศึกจากการเข้าตีทั้งสองห้วงเวลาแล้วประสพความล้มเหลวไม่สามารถผลักดันข้าศึกได้
การเข้าตีครั้งต่อไปหากใช้ยุทธวิธีเดิมความสูญเสียจะเกิดขึ้นอย่างมากโดยการสูญเสียจากกระสุนปืนใหญ่
เพราะข้าศึกตั้งรับในที่มั่นแข็งแรงบนที่สูงข่มการยิงเตรียมไม่สามารถตัดรอนกำลังข้าศึกให้อ่อนลงได้
เนื่องจากข้าศึกอยู่ในหลุมบุคคลปิดด้วยท่อนซุงเสริมมูลดินส่วนที่บังคับการเป็นบังเกอร์คอนกรีตเสริมเหล็ก ขณะดำเนินกลยุทธ์ต้องผ่าดงกับระเบิดที่เวียดนามส่งหน่วยลาดตระเวนมาวางดักเอาไว้อย่างหนาแน่นเมื่อต้องหยุดหน่วยจะถูกโจมตีด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่สนาม
เมื่อเข้าตีตรงหน้าของแนวปะทะแรกซึ่งเป็นบังเกอร์แรกของชุดตรวจการณ์หน้า(ที่ฟังการณ์ในเวลากลางคืน)หากเวียดนามสู้ฝ่ายไทยไม่ได้จะถอนตัวลงคูวิ่งเข้าแนวตั้งรับวงถัดไป
เพื่อลดการสูญเสียเวียดนามจะถอนตัวไปที่รวมพลก่อนรบแตกหักเมื่อไทยยึดที่หมายได้เวียดนามที่เตรียมยิงทำลายบนที่ตั้งตนเองเอาไว้โดยเตรียมหลักฐานเอาไว้ก่อนที่ไทยจะเปิดการโจมตี
จะยิงพร้อมกัน ณ ที่หมายด้วยปืนใหญ่ทุกชนิด
ซึ่งสร้างความสูญเสียกับทหารไทยอย่างมาก
การศึกครั้งนี้ไม่ใช่เราเข้าตีฝ่ายเวียดนามอย่างเดียว
ฝ่ายเวียดนามก็เข้าตีฝ่ายเราเช่นเดียวกันขณะที่กองร้อนอาวุธเบาของเราอยู่ในที่ตั้ง
เนิน ๔๓๖ ด้านปีกขวาเนิน๕๐๐ของกองพันเวียดนามที่๗เวียดนามก็รุกเข้าตีหลายครั้งโดยเข้าตีเป็นระลอกทั้งคืนแม้โดนระเบิดเคโมตายคาลวดหนามก็ไม่ถอยเสริมกำลังเข้าตีจนเราไม่ได้หลับได้นอนตั้งฐานอยู่มีแต่สูญเสียหลายวันเข้าต้องถอนกำลังออกมา
สรุปว่าเราต้องรบทั้งรุก ทั้งรับแต่หัวใจของการแพ้ชนะอยู่ที่ปืนใหญ่ดังนั้นเมื่อทราบยุทธวิธีของข้าศึกฝ่ายยุทธการจึงปรับแผนเข้าตีโดย
ต้องทำลายที่ตั้งปืนใหญ่ข้าศึกให้ได้
ต้องเข้าตีที่หมายแบบมีที่กำบังและพร้อมตั้งรับในที่กำบังเมื่อหยุดหน่วยนั่นก็คือใช้การรบแบบป้อมค่ายที่เคยใช้ในการรบที่เขาค้อสำเร็จมาแล้ว
ส่วนน้ำในพื้นที่ห้ามใช้อย่างเด็ดขาด
การส่งกำลังในแนวหลังจัดวางการป้องกันอย่างรัดกุมการระวังป้องกันใช้ทหารพรานลาดตระเวนรบ
และซุ่มโจมตีจนสามารถครองอิทธิพลในพื้นที่การรบตรึงข้าศึกให้ตั้งรับบนฐานที่มั่น
เมื่อได้เวลา น หมู่ปืนเล็ก และชุดปฏิบัติการของทหารพรานของส่วนเข้าตีหลักและส่วนเข้าตีสนับสนุนที่กระจายเต็มเส้นหลักการรุก ก็รุกคืบหน้ามุ่งสู่ที่หมาย
พร้อมยิงสนับสนุนด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดและ ปืนใหญ่สนาม
ทั้งหมู่วางตัวเร่งขุดหลุมบุคคลและขุดคูติดต่อทิศทางมุ่งเข้าหาที่หมายท่ามกลางการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดโจมตี
การเจาะคูรบมุ่งเข้าหาที่หมายทุกทิศทางแทรกซึมเข้าหาฐานข้าศึกอย่างช้าๆจนกองร้อยทหารราบที่
๒๓๓๓ สามารถควบคุม เนิน๓๖๐ไว้ได้ โดย พัน.ร.จึงสั่งการดัดแปลง เป็นที่มั่นแข็งแรงกำลังพลลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ทำป้อมสนามและอาวุธยุทโธปกรณ์
ด้วยการแบกหาม เผชิญหน้าข้าศึกบนเนิน
๕๐๐พิกัดWA๒๐๖๘๖๖ เพื่อเข้าตีขั้นต่อไป ที่มั่นเนิน๕๐๐เป็นที่ตั้งกองพันทหารเวียดนามที่๗ กรมที่๗๓๓ซึ่งเป็นทหารราบภูเขาขนาดกองพันตั้งรับอย่างเหนียวแน่น
ทหารพรานจะขุดบังเกอร์รุกเข้าหาฐานทหารเวียดนามอย่างต่อเนื่องและไม่ยิงปะทะโดยไม่จำเป็น
เมื่อเข้าไกล้ในระดับหนึ่งจะหยุด ปรับรูปขบวนคอยเวลาผ่านแนวออกตีการส่งกำลังและอาวุธเข้ามา
ตรึงกำลังแบบเผชิญหน้าสามารถตรวจการณ์ด้วยตาเปล่ามองเห็นกันได้
ทำให้ฝ่ายเวียดนามสับสน เพราะไม่ทราบว่าทหารไทยจะเอายังไง อีกทั้งยังอยู่ในระยะใกล้
ฐาน ยากต่อการยิงปืนใหญ่ การเกาะติดฐานของทหารไทยโดยไม่เข้าโจมตี
ทำให้ฝ่ายเวียดนามกดดันเป็นอย่าง ก่อนเช้าตรู่ของวันที่๑
มิถุนายน ๒๕๓๐ การเข้าตีแบบลักลอบไม่มีการยิงเตรียมก็เริ่มขึ้น ระยะใกล้กันมากการเข้าตีครั้งนี้ใช้
กองร้อยที่๑และที่๒ของกองพันทหารราบที่๔ กรมทหารราบที่๒๓ค่ายสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกจังหวัดบุรีรัมย์โดย
กองร้อยทหารราบที่ ๒๓๔๑เป็นส่วนเข้าตีหลักกองร้อยที่ ๒๓๔๒เป็นกองหนุน พร้อมกันนั้นชุดรบพิเศษหลายชุดฝ่ายยุทธการวางแผนเข้าตีใหม่
โดยเปิดแนวรบนอกเขตต่อสู้
หน่วยรบพิเศษต่างๆถูกส่งเข้ามาปฏิบัติการโดยร่วมกับทหารพรานจู่โจม
จัดตั้งหน่วยขนาดเล็ก เข้าแทรกซึมสู่แนวหลังข้าศึก มุ่งหน้าสู่ป่าลึกฝั่งกัมพูชาและสปป.ลาว
อีกครั้งเพื่อค้นหาฐานยิงสนับสนุนของข้าศึก
หน่วยรบพิเศษตรวจพบฐานยิงสนับสนุนของข้าศึก
ซึ่งซ่อนพรางอยู่ในป่าลึกฝั่งกัมพูชาและสปป.ลาว
รบพิเศษเข้าเกาะติดฐานข้าศึกและแจ้งพิกัดให้หน่วยเหนือทราบ ระหว่างนั้น
ทางฝ่ายยุทธการปรับแผนการรบ จากก่อนเคยใช้วิธีทุ่มกำลังเข้าตี
เปลี่ยนเป็นการรบแบบป้อมค่าย เกาะติดฐานข้าศึก
ใช้หน่วยทหารพรานจู่โจมซึ่งชำนาญพื้นที่กว่าทหารหลัก ร่วมกับ หน่วยทหารช่าง
ขุดดินรุกเข้าเนินที่หมายในหลายทิศทาง
รุกเข้าเกาะติดฐานชนิดที่มองเห็นหน้ากันได้เลยทีเดียวยิงปะทะเมื่อจำเป็น ได้แทรกซึมไปยังพื้นที่ส่วนหลังของฐานที่มั่นเวียดนามสามารถทำลายเส้นทางส่งกำลังและตรวจพบฐานปืนใหญ่เวียดนามที่อยู่ในลาว
จึงเกาะติดชี้เป้าหมายให้ชุดตรวจการณ์ทางอากาศจากเครื่องบิน แอล ๑๙
ขอยิงทำลายฐานปืนใหญ่และคลังกระสุน
เครื่องบินขับไล่ เอฟ-๕อี สองลำของฝูงบิน ๔๐๓ กองบิน ๔ ตาคลีก็แผดเสียงสนั่นดำดิ่งเข้าโจมตีเป้าหมายที่มั่นข้าศึก ด้วยปืนใหญ่อากาศ
ด้านบนที่หมายปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานของเวียดนาม
ยิงสกัดเครื่องบินรบของไทยอย่างหนัก เครื่องหมายเลข ๑ ของ น.ต.สุรศักดิ์ บุญเปรมปรี ถูกจรวด แซม-๗ ของเวียดนามเครื่องยนต์ขวาระเบิด
ต้องถอนตัวจากภารกิจ กลับไปยังกองบิน ๒๑ อุบลราชธานี ส่วนเครื่องหมายเลข๒ ของนาวาอากาศตรี
เจริญ บำรุงบุญ ก็ดำลงเข้าใช้อาวุธต่อเป้าหมาย
ทำให้เป้าหมายได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถูกทำลายจนราบเสียงระเบิดจากคลังกระสุนและคลังอาวุธเวียดนามดังกึกก้อง กรมทหารราบที่๒๓สามารยึดเนิน
๕๐๐ได้ สถานการณ์เหมือนการรบครั้งก่อน รุ่งขึ้นกำลังพัน.ร.๔ของพ.อ.เรวัต บุญทับก็ต้องพบกับการยิงพร้อมกันณ
ที่หมายของปืนใหญ่เวียดนาม อย่างเม่นยำ พร้อมการเข้าตีอีกหลายระลอกอย่างต่อเนื่อง
แต่ครั้งนี้เราคาดการณ์ล่วงหน้าจึงใช้หลุมบังเกอร์ต่างๆของเวียดนามในการป้องกันตนเองและยืนหยัดต่อสู้จนถึงวันที่
๔ มิถุนายน การสู้รบตั้งแต่วันที่๑ – ๔ สามวันเราสูญเสียกำลังพลจากการสู้รบแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเสียชีวิต
๑๓ นาย บาดเจ็บ ๙๐นายจากการเข้าเคลียร์ ฐานแห่งนี้ พบศพทหารเวียดนาม ๔๕ ศพและจับเชลยได้ ๑๒นาย ยึด อาวุธ ยุทโธปกรณ์จำนวนมาก รวมทั้งจรวดแซมแบบยิงประทับบ่า
เราสามารถสถาปนาที่มั่นตั้งรับได้สำเร็จ การปะทะของทหารไทย ทหารเขมรแดงในพื้นที่กับเวียดนามดำเนินต่อไปแต่ไม่หนักส่วนใหญ่เวียดนามจะสูญเสียกำลังพลจากกองโจรเขมรแดงจนถึงเวลาประมาณ๑๔๕๕ของ๒๗มิ.ย.กำลังเวียดนามต้องถอนตัวออกจากที่หมายเนินต่างๆจนหมด
เนื่องจากการสูญเสีย และการส่งกำลังบำรุงในเขตกัมพูชา ที่ถูกรบกวนจาก เขมรแดง และชุดรบพิเศษ
ส่วนฐานต่างๆถูกกำลังเขมรแดงได้เข้าตีฐานอย่างต่อเนื่อง
โดยได้รับการสนับสนุนการยิงปืนใหญ่จากฝั่งไทย ทำให้เวียดนามถูกตีขนาบ
จึงต้องถอนกำลังกลับเข้าเขตกัมพูชาห่างจากแนวเขตแดนเพื่อให้พ้นอิทธิพลกองทัพเขมรแดงและระยะยิงปืนใหญ่ของกองทัพไทยการรบที่ช่องบกจึงยุติลง
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ในปีการปฏิบัติการกวาดล้างกองกำลังทหารเวียดนามที่ช่องบก
ตั้งแต่ ม.ค.๒๕๒๘-ธ.ค.๒๕๓๐ ทหารไทยสูญเสีย กำลังพล ๑๐๙ นาย บาดเจ็บ ๖๔๔ นาย
ยึดอาวุธจากฝ่ายเวียดนามได้จำนวนมาก
ผมอัพเดทBlogของเพื่อนบ้านที่เขาเคยไปร่วมรบ ที่นั้นมา รายละเอียดจะมีเพิ่มเติม อ่านดูครับเพื่อการศึกษา
http://www.nco125.com/webboard-view/1306261687.html
| | |
|
ในปี 2529 ทวน.(ทหารเวียดนาม) ได้รุกล้ำอธิปไตยของไทยโดยการเข้ามาวางกำลังเป็นฐานปฏิบัติการบนเนินต่างๆ เช่น เนิน 500, 408, 382, 436 และ 689 ซึ่งลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 2 - 3 กิโลเมตร...โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นการส่งกำลังบำรุงและการแทรกซึมของเขมรสามฝ่ายจากฝั่งไทย..........
|
| | |
|
ขอบคุณเพื่อนเวศน์มาก เนื้อหาสั้น กระชับ เป็นตอน ๆ น่าติดตาม ได้ความรู้ดี
| |
| | |
| บุญยิ่ง เพ่งจินดา : 0875807500 | 2013-06-26 18:21:16 | |
| | |
วีกรรมทหารไทยสุดยอดมาก ทั้งฝืมือและความกล้าหาญ
ตอบลบอ่านข้อเท็จจริงแล้วตื่นเต้นมากคับ พยายามหาข้อมูลในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกแล้วแต่ไม่เจอ ซึ่งตัวผมเองติดตามช่องบกมาตลอดตั้งแต่ 7-8 ขวบ เพราะได้ยินเสียง ฮ.ลงทุกวันในค่าย สรรพสิทธิประสงค์ อ.วาริน จ.อุบล แล้ววัดหน้าค่ายก้อเผาศพทุกวัน เลือดผมสูบฉีดอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้เลยเดินตามความฝันมาเป็นทหาร สังกัดนาวิกโยธิน ก้อเพราะเหตุการณ์ช่องบกนี่แหล่ะคับ ขอขอบคณทหารราบทัพภาค 2 ทุกนายที่สละเลือดเนื้อเพื่อชาติคับ น.ท.ชิดพงษ์ พุ่มแก้ว 087-1284630
ตอบลบมีท่านใดจำเพลงนี้ได้บ้างครับ https://www.youtube.com/watch?v=CCmLhFtUQpI
ตอบลบคาราวะนักรบราคาถูกพรานพิฆาต2307ทุกนาย
ตอบลบ