ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

ช่องบก สมรภูมิพิทักษ์แผ่นดินไทย ตอนที่ ๑

                                                   ช่องบก สมรภูมิพิทักษ์แผ่นดินไทย

                                                                  ตอนที่ ๑

               เมื่อสิ้นสุดสงครามเวียดนามในปี พ.ศ.๒๕๑๘สหรัฐ อเมริกา ถอนทหารออกจากเวียดนามใต้ เมื่อเวียดนามเหนือชนะสงครามและรวมประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งเดียว  ชาวเวียดนามใต้ที่ไม่ยอมรับอำนาจการปกครองของเวียดนามเหนือต่างพากันอพยพโดยทางเรือออกนอกประเทศแม้แต่การเดินเท้าเข้ามายังกัมพูชาส่วนประเทศปลายทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของทะเลจีนใต้ได้แก่       ไทย  มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ชาวเวียดนามหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ด้านสถานการณ์สงครามมิได้หยุดยั้งอยู่แค่เวียดนามใต้เท่านั้น หลังจากอเมริกาต้องถอนฐานทัพที่เป็นฐานสนับสนุนการรบให้กับทหารนาวิกโยธิน ทหารบกและทหารอากาศอเมริกัน ออกจากประเทศไทย กองทัพทหารรับจ้างชาวไทยที่ร่วมรบกับทหารรัฐบาลเวียดนามใต้ ทหารรัฐบาลลาวและทหารกัมพูชาจึงต้องยุติการรบร่วมโดยสิ้นเชิง  ทำให้ทั้งรัฐบาลลาวและกัมพูชาไม่อาจต้านทานกองทัพลาวแดงและเขมรแดงที่เวียดนามสนับสนุนได้ในปี ๒๕๑๙ เขมรแดงภายใต้การนำของพอลพตและเขียวสัมพันนำกองทัพแดงยึดกรุงพนมเปญได้ ส่วนลาวเมื่อไม่มีกองทัพหนุนจากมิตรประเทศ จึงหมดทางต่อสู้เจ้าสว่างวัฒนากษัตริย์ลาวจึงถูกโค่นล้มสิ้นสุดระบอบประชาธิปไตยทั้ง สองประเทศจึงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประเทศในลัทธิคอมมิวนิสส์ภายใต้การสนับสนุนของเวียดนาม และจีนระหว่างที่เกิดสงครามระหว่างลัทธิคอมมิวนิสส์และประชาธิปไตยในเวียดนาม ลาว และกัมพูชานั้น ในประเทศไทย  กองทัพบก นาวิกโยธิน ตำรวจตะเวนชายแดน ตำรวจ และอาสาสมัคร ได้ทำการสู้รบปราบปรามกองทัพทหารป่าของพรรคคอมมิวนิตส์ที่ทั้งเวียดนาม จีน ลาวแดง และเขมรแดงให้การสนับสนุนอยู่อยากเข้มข้นหลายพื้นที่ในประเทศไทยเป็นพื้นที่สีแดง พคท.ได้ตั้งเขตปลดปล่อย เขตงานที่ประกอบด้วยการปกครอง การทหาร โรงเรียนการเมือง มีการเคลื่อนไหวทางหทารและมวลชน รุกหนักจากป่าสู่เมือง มีการสู้รบหนัก ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ปิดล้อมโจมตีสถานีตำรวจ ฐานทหารและตชด.หลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคอิสาน ภาคใต้ เช่นที่เชียงราย น่าน นครพนม สกลนคร กาฬสินธ์  เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ตาก นครศรีธรรมราช ส่วนแนวชายแดนด้านเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก ที่กองทัพภาคที่๑ กองทัพภาคที่๒ กองทัพภาคที่๓ และกองกำลังนาวิกโยธิน กองทัพเรือ รับผิดชอบดูแลรักษาอธิปไตยโดยใช้กำลังจากกองพลทหารราบและกองพลนาวิกโยธิน(ขณะนั้นเป็นกรมนาวิกโยธิน)ตชด. และทหารพรานที่เป็นกำลังจากประชาชนที่ตั้งขึ้นมาใหม่  เป็นกำลังหลักในกองกำลังรายรอบประเทศตั้งแต่กองกำลังผาเมืองกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองกำลังสุรนารี กองกำลังบูรพา และกองกำลังจันทบุรีและตราดต้องทำหน้าที่ปกป้องการบุกรุกแนวชายแดน ที่มีแนวโน้มจะเกิดการรุกหนักจากกองกำลังภายนอกประเทศที่ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และกองทัพจีนที่สนับสนุนกองกำลังของ พคท.ในไทย โดยให้การสนับสนุนการฝึกอาวุธอบรม การเมือง การทหารและอาวุธ   ยุทธภัณฑ์ให้กับ พรรคคอมมิวนิตส์ไทย
                   ประเทศกัมพูชาภายใต้การปกครองของเขมรแดงนิยมจีนภายใต้การนำของพอลพต และเขียว สัมพัน  มีการกำจัดประชาชนฝ่ายต่อต้าน โดยจับกุมไปขังและสังหารเป็นจำนวนนับล้านคน ที่เรียกกันว่าทุ่งสังหารตั้งแต่เขมรแดงเข้าปกครองจนถึงการสังหารโหดผู้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง      ทำให้ ประชาชนกัมพูชานับล้านคนอพยพหลบหนีเข้าประเทศไทยจนรัฐบาลไทยและยูเอ็น ต้องเข้าช่วยเหลือมีการตั้งศูนย์อพยพตามจังหวัดชายแดนไทยกัมพูชาหลายศูนย์ เราเรียกชาวกัมพูชาอพยพเหล่านี้ว่าเขมรเสรี  กองทัพเขมรแดงได้เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของทหารไทย และสถานีตำรวจรวมทั้งหมู่บ้านชาวไทยในจังหวัดชายแดนหลายครั้ง  เช่นที่หมู่บ้านและฐานปฏิบัติการตชด.ตำบล หาดเล็กอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งในกัมพูชาเองยังมีการรวมกลุ่มชาวกัมพูชาหลายกลุ่มนำโดย ซอนซาน และกษัตริย์สีหนุ ต่อต้านรัฐบาลเขียวสัมพัน แต่ไม่สามารถต่อต้านเป็นรูปธรรมได้มากนัก ท่ามกลางความไม่ลงตัวของการปกครองกัมพูชา มกราคม ๒๕๒๑ เฮงสัมรินผู้นำเขมรแดงที่นิยมเวียดนามก็นำ กำลังกองทัพเวียดนามเข้ารัฐประหารเขียวสัมพัน  กองทัพเวียดนามใช้เครื่องบินรบแบบเอฟ ๕ ของอเมริกาจากกองทัพอากาศเวียดนามใต้ เข้าโจมตีทิ้งระเบิดจุดยุทธศาสตร์สำคัญในกัมพูชา ตามด้วยเคลื่อนกำลังรถถังจำนวนมาก บุกเข้ามาที่เมืองสำคัญ ตั้งกองกำลังและยึดไว้ จากนั้นค่อยๆกระจายจากเมืองนั้นไปเมืองนี้ทีละเมือง ๆ ประมาณ ๑๕ วัน เวียดนามยึดกัมพุชาได้ทั้งประเทศ การบุกเข้ามาในกัมพูชาในครั้งนี้ใช้กำลังมากถึง ๒๕ กองพล ทหารประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ คน และรถถังจำนวนหลายร้อยคัน อีกทั้งส่งกำลังประมาณ ๖๐,๐๐๐ คนประจำการในลาวด้วย กองกำลังเวียดนามที่ร่วมมือรัฐประหารและเป็นกองกำลังพิทักษ์เฮงสัมรินเร่งเพิ่มกำลังทหารเข้าขับไล่กองทัพเขมรแดงของพอลพตออกจากพนมเปญ และเมืองต่างๆ  พลพตและกองกำลังหลายหมื่นของเขาไม่สามารถเอาชนะกองทัพเวียดนามได้จึงถอยร่นมายังแนวตะเข็บชายแดนไทยทำให้กลุ่มนี้เปลี่ยนสภาพจากเป็นรัฐบาลมาเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลของเฮงสัมริน ขณะนั้นกลุ่มต่อต้านจึงมี สามกลุ่ม ประกอบด้วย ฝ่ายสีหนุ, ซอน ซาน, และเขมรแดง (เขียว สัมพันธ์)เมื่อยึดอำนาจรัฐบาลเขมรแดงของพอลพตสำเร็จ   การปกครองกัมพูชาถูกเปลี่ยนมือเป็นเฮงสัมริน ก่อนหน้านั้นเขมรฝ่ายต่าง ๆ ก็รบกันภายใน เพื่อแย่งชิงอำนาจกันอยู่แล้ว แต่คราวนี้กลับหันหน้ามาร่วมมือกันชั่วคราวเพื่อขับไล่เฮงสัมรินและทัพเวียดนาม การต่อสู้ยังไม่รุนแรงเนื่องจากจำนวนทหารเวียดนามมีมากจนทัพเขมรแดงที่เป็นกองกำลังต่อต้านที่เข้มแข็งที่สุดไม่สามารถรุกคืบหน้าเข้ายึดเมืองต่างๆคืนจากเวียดนามได้คงถอยร่นมาติดแนวชายแดนไทย
การที่เฮงสัมรินต้องการยึดอำนาจจากพอลพต  โดยใช้กองกำลังทหารเวียดนามช่วยเหลือนั้น ด้วยศักยภาพกองทัพของพอลพตที่ปกครองประเทศอยู่นั้นหากใช้กองทัพ เวียดนามเพียงแค่ ๔ กองพลก็สามารถต่อกรกับเขมรแดงได้อย่างสบาย เพราะยังมีกองกำลังอีกจำนวนหลายหมื่นคนของฝ่ายเฮงสัมรินในกัมพูชา ซึ่งรวมแล้วมีจำนวนมากกว่ากองกำลังเขมรแดงมาก อีกทั้งยังมีอาวุธหนัก เช่น ปืนใหญ่ และรถถัง ที่เหนือกว่าทางเขมรแดงมาก     แต่เพราะเหตุใดเวียดนามถึงทุ่มกำลังเข้าประเทศกัมพูชาถึง ๒ แสนนาย  หรือเวียดนามจะใช้กัมพูชาเพื่อเป็นฐานทัพในการบุกโจมตีประเทศไทย   ขณะนั้นการสู้รบระหว่าง พคท.กับกองทัพรัฐบาลไทยในภาคเหนือ อิสานเหนือ อิสานใต้  และบางส่วนของภาคใต้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ฝ่ายความมั่นคงไทยมีความหวาดระแวงเวียดนามว่าอาจอาศัยการปราบปรามเขมรแดงที่อยู่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเป็นข้ออ้างรุกล้ำดินแดนไทยและเป็นไปได้ว่าอาจร่วมมือกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แยกกำลังกองทัพของไทยในความพร้อมรบที่ต้องจัดกำลังป้องกันประเทศ และต้องจัดกำลังเข้าคุ้มครองประชาชนปราบปราม กองทัพของ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย.ซึ่งเป็นไปได้มากที่เวียดนามจะบุกเข้ายึดดินแดนไทยทั้งภาคเหนือที่ติดกับลาวภาคอิสานที่ติดกับกัมพูชา หรือที่สุดอาจขยายอิทธิพลยึดครองประเทศไทยทั้งหมด
เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมที่จะรับมือกองทัพของเวียดนามที่พิสูจน์แล้วว่ามีความพร้อมรบที่จะรุกเข้าสู่ประเทศไทย จึงมีความจำเป็นที่กองทัพต้องทุ่มกำลังเตรียมพร้อมป้องกันประเทศอย่างเต็มที่  โดยก่อนหน้านั้นกองทัพได้เพิ่มเติมกองกำลังให้เพียงพอต่อการรับมือ กองทัพของคอมมิวนิสต์ โดยตั้งกองกำลังกึ่งทหารกึ่งพลเรือนโมเดลเดียวกับกองกำลังที่ร่วมกับสหรัฐอเมริกาเข้ารบที่ลาวและเวียดนาม เรียกว่าอาสาสมัครทหารพราน และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้าศึกภายนอกประเทศ กำลังส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังป้องกันชายแดน

                 ปักกิ่งนั้นสนับสนุนด้านอาวุธและวิชาการ ทั้งการฝึกอบรมฝึกอาวุธ(อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงได้แก่ ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง  ปืนเล็กเอเค๔๗ เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังอาร์พีจี)ทั้งโดยตรงและผ่านลาวแดงและเขมรแดงให้กับพลพรรคของคอมมิวนิสต์ไทยมานาน มีการวางเครือข่าย ปลุกระดมและการติดต่อสื่อสารระหว่างศูนย์กลางพรรคกับเขตงานต่างๆ โดยตั้งสถานีวิทยุเสียงปักกิ่งภาคภาษาไทยเป็นกระบอกเสียง เมื่อมีความบาดหมางเกิดขึ้นระหว่างจีนที่สนับสนุนเขมรแดง พอลพต และเวียดนามที่สนับสนุนเฮงสัมริน และบาดหมางจากการที่พอลพตนำกำลังที่มีจีนสนับสนุนรุกล้ำชายแดนบุกเข้าเวียดนาม  ด้วยโอกาสที่ฝ่ายความมั่นคงไทยจะต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย.ให้ลดลง  เพื่อทุ่มเทกำลังป้องกันแนวชายแดนให้พร้อมเต็มที่  ผู้นำระดับสูงทางการทหารของไทย จึงได้ส่งนายทหารของไทยไปกรุงปักกิ่ง เพื่อเจรจากับจีน   ขอให้จีนยุติการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากจีนเป็นอย่างดี จีนหยุดการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ต่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) มีการปิดสถานีวิทยุเสียงปักกิ่งเท่ากับการปลุกระดมและส่งข่าวสารไปยังส่วนต่างๆของเขตงาน ที่เคลื่อนไหวในไทยยากลำบากมากขึ้นการปฏิบัติทางทหารรุกหนักมีการทำลายที่ซ่องสุมในเขตงานสำคัญๆของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ส่วนทางการไทยเตรียมเปิดช่องให้มีการมอบตัวของพลพรรค พคท.ด้วยนโยบาย นิรโทษกรรมไม่เอาความผิดกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่เข้ามอบตัวร่วมพัฒนาชาติไทย(ออกนโยบาย ๖๖/๒๓ ในปี๒๕๒๓) นอกจากนั้นจีนยังขายอาวุธหนักให้ไทย ซึ่งมีทั้งปืนใหญ่ รถถัง ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ที่เราเคยแต่เป็นพันธมิตรกับฝ่ายสหรัฐและยืนอยู่ตรงข้ามกับจีนเคียงข้างสหรัฐ อีกด้านหนึ่งไทยจำเป็นต้องญาติดีกับเขมรแดงเพื่อนสนิทของจีนและจีนได้ผ่านความช่วยเหลือทั้งเสบียงและอาวุธเพื่อให้เขมรแดง และเขมรเสรีผ่านการขนส่งทางทะเลผ่านต่อไปยังฐานเขมรแดงตามตะเข็บชายแดนไทยเพื่อใช้ต่อสู้กับกองทัพเวียดนามซึ่งมีโซเวียดหนุนหลังอีกที จึงทำให้กองกำลังที่จะรับมือเวียดนามนอกจากไทยแล้วยังมีเขมรแดงเป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง แต่ก่อนอื่นจำเป็นต้องหยุดการรุกของเวียดนามให้เวียดนามคงอยู่แต่ในกัมพูชาและเวียดนามต้องลดกำลังทหารในกัมพูชาให้น้อยลงให้ได้เสียก่อน  แล้วจึงให้กองกำลังเขมรแดง และเขมรเสรีของซอนซานรบแบบกองโจรเช่นเดียวกับเวียดนามใช้กับอเมริกาจนถึงกับถอนทัพกลับ ดังนั้นภารกิจแรกที่จีนให้ความร่วมมือไทยคือแบ่งแยกกองทัพเวียดนามในกัมพูชาให้ลดน้อยลง   ฤดูแล้งของปี ๒๕๒๒ กองทัพจีนได้เคลื่อนทัพหลายแสนคนบุกเข้ามาเวียดนามทางตอนเหนือทางเมืองกวางสี   เวียดนามจำเป็นต้องใช้กองกำลังทหารในประเทศมารับมือจีนแต่ก็มีจำนวนน้อยไม่สามารถหยุดยั้งกองทัพจีนได้จึง ต้อเคลื่อนย้ายกองทัพที่ดีที่สุดของเวียดนามบางส่วนออกจากกัมพูชา เพื่อสู้รบกับจีน ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่ในกัมพูชาก็รุกไล่กองทัพเขมรแดงและเขมรสีหนุ จนติดชายแดนไทยและบางส่วนรุกล้ำเข้ามาตามช่องทางที่เขมรแดงเคลื่อนย้ายเข้าออกประเทศไทยบริเวณที่มีค่ายอพยพซึ่งเป็นที่รวมกองกำลังเขมรแดง,เขมรเสรี และเป็นที่ส่งกำลังบำรุงทั้งอาหารและอาวุธหลังจากที่เวียดนามยึดกัมพูชาได้ ชาวกัมพูชาจำนวนหลายแสนคน อพยพเข้ามาประเทศไทย มีการตั้งค่ายผู้อพยพขึ้นเป็นไซต์ต่าง ๆ ซึ่งประชาชนกัมพูชาจะรวมกันเป็นหลายกลุ่มในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยเช่นที่เขาอีด่างจังหวัดปราจีนบุรี(ปัจจุบันตั้งเป็น จังหวัดสระแก้ว) ค่ายอัมบึน ค่ายหนองจาน  ค่ายเคทูเขาตาง๊อก ศูนย์อพยพบ้านพญากัมพุช ฐานส่งกำลังบำรุงบ้านผักกาด ค่ายสุขสันต์จังหวัดตราด ค่ายเขาพลู ค่ายสะพานหิน ค่ายเขาล้าน  กลุ่มของเขมรแดง กลุ่มของสีหนุ ในค่ายผู้อพยพเหล่านี้ มีประชาชน ติดอาวุธ และจัดเป็นหน่วยจรยุทธ์รบนอกแบบกึ่งรบตามยุทธวิธีเข้ารบกับเวียดนามในกัมพูชา โดยการสนับสนุนด้านต่างๆเช่นเสบียง อาวุธ การฝึกอาวุธ การวางแผนการยุทธ์  จากนานาประเทศที่ต้องการหยุดยั้งการขยายอำนาจของคอมมิวนิสต์เวียดนาม-โซเวียต ด้านกองทัพเวียดนามเริ่มเคลื่อนกำลังรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย และตั้งฐานที่มั่นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่ดินแดนติดต่อสามประเทศไทยลาวกัมพูชาอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดสุรินทร์จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรีและตามแนวสันเขาบรรทัดจังหวัดตราด มีการตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงสาย เค-๕เป็นถนนยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง เคลื่อนย้ายอาวุธหนักและส่งกำลังบำรุงเพื่อต้องการควบคุมแนวชายแดนไทยไว้ทั้งหมด และจำกัดการปฏิบัติการของเขมรฝ่ายต่อต้านจากไทย จนเป็นที่มาของ สมรภูมิช่องบก การรบที่ตาพระยา การรบที่โนนดินแดง ยุทธการบ้านหนองกก ยุทธการบ้านกระดูกช้าง ยุทธการบ้านชำราก และการปะทะกับกองกำลังนาวิกโยธินที่บ้านหาดเล็กจังหวัดตราด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น